5 วิธีเอาชนะโรคนอนไม่หลับ

5 วิธีเอาชนะโรคนอนไม่หลับ
เฮลท์ ทริกส์
5 วิธีเอาชนะโรคนอนไม่หลับ
ใครที่หัวถึงหมอนแล้วนอนหลับยาว ขอให้รู้ไว้ว่าคุณเข้าข่ายเป็นผู้โชคดี
เพราะยังมีผู้คนจำนวนมากที่ต้องเผชิญกับ ปัญหาในการนอน บางคนถึงขั้นต้องไปพบ หมอเลยทีเดียว
โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ทำงาน ทั้งออฟฟิศ ทำงานบ้าน และเลี้ยงลูก เป็นกลุ่มที่เผชิญกับปัญหานี้มาก การพักผ่อน ที่ไม่เพียงพอก็จะทำให้พวกเธอเหนื่อยล้าไม่สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ให้ออกมาดีได้ซ้ำร้ายจะส่งผลให้อารมณ์หงุดหงิด และพาลกับผู้คนรอบข้างแบบไม่รู้ตัว

นิวส์วีก′รายงานถึงความพยายามที่จะเอาชนะปัญหาเรื่องการนอนหลับ ที่ ซินดี้ ลีฟ บรรณาธิการบริหารนิตยสารกลามัวร์ และเว็บไซต์ ′เดอะ ฮัฟฟิงตัน โพสต์′ ได้ร่วมกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์และเคล็ดลับต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ผู้อ่านนอนหลับได้ดีขึ้น

สำหรับ 5 วิธีที่จะช่วยปัญหานี้ เริ่มจากข้อแรก คุณต้องตั้งเวลาตื่นให้เป็นมาตรฐาน หากร่างกายชินกับตารางที่ตั้งไว้ ก็จะทำให้การนอนทำได้ง่ายขึ้น

ข้อ 2 เตรียมตัวก่อนนอน โดยปิดคอมพิวเตอร์และทีวีก่อนนอนสัก 1 ชั่วโมงและหรี่ไฟในห้องเพื่อส่งสัญญาณไปสมองว่ากำลังจะพักผ่อน

ข้อ 3 เลี่ยงกาเฟอีนหลังเที่ยง เพราะหาก ดื่มกาแฟหรือชาตอนเย็น ก็จะส่งผลต่อความสามารถในการนอน ข้อ 4 ระวังการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะร่างกายต้องใช้เวลา1 ชั่วโมง เพื่อเผาผลาญแอลกอฮอล์ 1 ออนซ์

และข้อ 5 ตั้งตารางการนอน เหมือนกับทำกิจกรรมอื่น ๆ เพราะการนอนมีความสำคัญ และไม่อาจละเลยได้

เลือกช็อกโกแลตรับวาเลนไทน์

ใกล้ถึงเทศกาลวาเลนไทน์แล้ว ช็อกโกแลต คงเป็นทางเลือกหนึ่งที่หนุ่ม ๆ สาว ๆ เตรียมจะมอบให้กับหวานใจ

′เฮลท์นิวส์ไดเจสท์′ รายงานว่า วาเลนไทน์ถือเป็นจังหวะเหมาะที่จะปรับเปลี่ยนการให้ของขวัญจากช็อกโกแลตชนิดแท่งหรือลูกอมหันมาดื่มดาร์กช็อกโกแลตร้อน ๆ สักแก้วแทน จะมีผลเท่า ๆ กับการดื่มไวน์หนึ่งแก้วที่ช่วยดูแล หัวใจให้แข็งแรง

แต่ถ้าไม่สามารถหักห้ามใจได้ โลนา แซนดอน นักโภชนาการจากยูที เซาท์เวสเทิร์น เมดิคอล เซ็นเตอร์ แนะนำว่า ให้เลือกช็อกโกแลตบริสุทธิ์จะเป็นประโยชน์ต่อหัวใจมากกว่า

ช็อกโกแลตบริสุทธิ์ที่ผลิตจากเมล็ดโกโก้มีสาร flavanol สารต้านอนุมูลอิสระ หรือแอนตี้ออกซิแดนต์่ช่วยปกป้องเส้นเลือดหัวใจ การไหลเวียนของเลือด และป้องกันโรคหัวใจ ดาร์กช็อกโกแลต 1 แท่ง น้ำหนัก 1.5 ออนซ์ มีสารต้านอนุมูลอิสระราว ๆ 950 มิลลิกรัม เทียบกับช็อกโกแลตนม 1 แท่ง ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเพียง 400 มิลลิกรัมเท่านั้น ขณะที่ไวต์ช็อกโกแลตมีไขมันและน้ำตาล แต่ไม่มีสารต้านอนุมูลอิสระ

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ/http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1265360582&grpid=07&catid=no§ionid=0225