ความลับของมือและเล็บสวย

ความลับของมือและเล็บสวย ถ้าทุกวันนี้คุณโหมกระหน่ำใช้งานมือกันแบบไม่ยั้งคิดถึงเวลาหรือยังที่จะใส่ใจดูแลมือและเล็บให้มีสุขภาพดีกันเสียที

ไม่ต้องถึงกับตามติดเทรนด์แฟชั่นกันให้เหนื่อยใจ แค่รู้จักบำรุงมือและเล็บให้เนียนสวยน่าสัมผัส แค่นี้คนที่เขาได้จับหรือกุมมือคุณก็แสนจะสุขใจแล้วล่ะ

มาดูแลเล็บกันก่อน

ไม่ต้องแวะเวียนเข้าไปเสียสตางค์ในร้านทำเล็บอยู่บ่อยๆ หากพอจะมีวิชาติดตัวกับเขาบ้าง นี่คือกรรมวิธีง่ายๆ ที่คุณก็สามารถดูแลเล็บมือและเล็บเท้าด้วยตัวเองที่บ้านได้

อุปกรณ์

น้ำมันหอมระเหย
ผลิตภัณฑ์ขัดผิว
โลชั่นบำรุงผิว
น้ำยาล้างเล็บ
ไม้ส้ม
คอตต้อนบัด

น้ำมันหอมระเหย

ขั้นตอนดูแลมือและเท้า
step 1
เช็ดยาทาเล็บออกให้หมด โดยการใช้น้ำยาล้างเล็บแบบปราศจากอาซิโตน นอกจากจะช่วยให้สีของยาทาเล็บหลุดออกได้ง่ายแล้ว ยังไม่ทำให้ผิวเล็บเกิดอาการระคายเคืองอีกด้วย ล้างเล็บด้วยการม้วนสำลีเป็นก้อนกลมจุ่มน้ำยาล้างเล็บแล้วค่อยๆ เช็ดจนสียาทาเล็บหลุดออกหมด อย่าใช้สำลีแบบแผ่น เพราะจะทำให้ผิวเราสัมผัสกับน้ำยาล้างเล็บโดยตรง และอาจเกิดอาการระคายเคืองได้


step 2
ตกแต่งเล็บด้วยการตัดเล็บให้ได้รูปร่างเล็บสวยอย่างที่ต้องการ แต่อย่าตัดให้สั้นจนเกินไป เพราะถ้าตัดสั้นจนติดเนื้อด้านในของเล็บแล้ว เวลาหยิบของหรือทำอะไรอาจรู้สึกเจ็บได้ เพราะเนื้อใต้เล็บค่อนข้างไวต่อความรู้สึกควรตัดให้เห็นเนื้อเล็บสีขาวสัก 2 มิลลิเมตร หรือถ้าอยากไว้เล็บยาวก็ไม่ควรยาวเกิน 1 ใน 3 ของเล็บทั้งหมด


step 3
การตัดเล็บให้ได้รูปทรงที่เหมาะกับฐานเล็บจะดีที่สุด สำหรับคนที่มีฐานเล็บค่อนข้างตรง ให้ตัดรูปเล็บออกแนวสี่เหลี่ยม แต่ถ้าฐานเล็บค่อนข้างมนให้ตัดเป็นรูปทรงไข่จะเข้ากันที่สุด


step 4
จากนั้นลบเหลี่ยมมุมที่แหลมให้มนขึ้นด้วยการตะไบเล็บ ให้เลือกแบบเซรามิคจะดีกว่าแบบโลหะ แต่อย่าพยายามให้โดนหนังกำพร้ารอบๆ เล็บเพราะอาจจะทำให้เกิดอาการอักเสบหรือเจ็บได้


step 5
แช่มือในน้ำอุ่นสัก 2-3 นาที ส่วนเท้าสัก 5 นาที หยดน้ำมันหอมระเหยลงไปในน้ำ เพื่อความหอมและช่วยให้ผิวนุ่มเนียน ใช้เกลือขัดผิวเพื่อขจัดเซลผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก หรือถ้ารู้สึกว่าเกลือทำให้แสบผิวจนเกินไป เปลี่ยนมาใช้น้ำมะขามเปียกในการ ขัดผิวแทนก็ได้ ส่วนบริเวณส้นเท้านั้นควรเน้น เป็นพิเศษด้วยการใช้หินภูเขาไฟ ขัดผิวหนังบริเวณที่ค่อนข้างหยาบกร้านให้หลุดออกทำอาทิตย์ละครั้ง ผิวหนังที่หยาบกระด้างบริเวณส้นเท้าจะค่อยๆ กลับมาเนียนนุ่มอีกครั้ง


step 6
ใช้คีมตัดหนังกำพร้าที่ชี้ๆ ออกมาให้เรียบร้อย จากนั้นบำรุงหนังกำพร้ารอบๆ เล็บด้วยการใช้ออยล์บำรุงโดยเฉพาะ แต่ถ้าไม่มีให้ใช้เบบี้ออยล์แทนก็ได้ จากนั้นใช้ไม้ส้มที่พันสำลีไว้เรียบร้อยแล้ว ค่อยๆ เช็ดทำความสะอาดซอกเล็บหรือบริเวณหนังกำพร้ารอบเล็บ พร้อมกับดันหนังกำพร้าบริเวณนั้นให้เข้าที่จนดูเรียบสวย เป็นการตกแต่งให้หนังกำพร้าบริเวณที่สั้นมากและตัดไม่ได้ให้เข้าที่เข้าทาง แล้วทาโลชั่นบำรุงมือและเล็บอีกครั้ง


step 7
นวดมือและเท้าให้ตัวเอง ปรนเปรอมือและเท้าของคุณด้วยโลชั่นผสมวิตามินอี ค่อยๆ นวดจากฝ่ามือแล้วไล่ลงมาที่นิ้วแต่ละนิ้วจนครบ โดยนวดทั้งสองข้างอย่างเบามือ เพื่อที่จะให้วิตามินอีค่อยๆ ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มที่


step 8
ใช้แปรงขัดเล็บแตะแป้งเนื้อหยาบ ขัดเบาๆ ที่ผิวเล็บ เป็นการขจัดน้ำมันบนผิวเล็บให้หลุดออก หลังขัดแล้วเล็บจะมีความมันวาว เป็นการเตรียมเล็บก่อนทาน้ำยารองพื้น


step 9
ทาน้ำยารองพื้นลงบนเล็บเพื่อสร้างความแข็งแรงให้เล็บก่อนการทาเล็บ จะช่วยให้การทาเล็บเนียนสวยได้ไม่ยาก แต่ระวังอย่าให้เกิดฟองอากาศจะทำให้ผิวเล็บไม่เรียทาเพียงครั้งเดียวก็พอ


step 10
เลือกสียาทาเล็บที่ต้องการ ค่อยๆ ทาให้เรียบ ให้ขนแปรงแบะออกเล็กน้อย ทำมุมกับผิวเล็บประมาณ 45 องศา รอให้แห้งจากนั้นทาทับซ้ำอีกครั้งเพื่อความเนียนสวยของสีและอย่าทากลับไปกลับมา


step 11
ทาท๊อปโค้ทเพื่อช่วยปกป้องสียาทาเล็บ และยังช่วยเคลือบเล็บให้เล็บสวยเป็นประกายสดใส มีสุขภาพดี


Do you know?

ทรีตเม้นท์สำหรับมือที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นมาก

สาวทำงานบ้านตัวจริงที่ต้องสัมผัสกับน้ำหรือการซักล้างตลอดเวลา มือคุณจะดูเหี่ยวย่นมีริ้วรอยนับไม่ถ้วน แถมมือยังหยาบไม่อ่อนนุ่มน่าสัมผัสอีกต่างหาก ถึงเวลาที่จะดูแลมือกันอย่างจริงจังเสียที ด้วยกรรมวิธีเพื่อทำให้มือของคุณกลับมาสวยปิ๊งดังเดิม


ขัดผิวมือให้เรียบเนียน ด้วยสครับขัดผิวที่มีส่วนผสมของเกลือจากทะเลเดดซี จะช่วยขจัดเซลผิวที่แห้งและหยาบกร้านให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน

จากนั้นล้างมือและเช็ดให้สะอาด แล้วมาบำรุงมือด้วยโจโจบาออยล์หรือน้ำมันอะโวคาโด ที่ช่วยให้มือที่แห้งหยาบกลับมีน้ำมีนวลเพิ่มขึ้น

ที่มาข้อมูล : นิตยสาร Hair ฉบับภาษาไทย