ไขข้อเท็จจริงเรื่อง "นม" "มากคุณค่า เสี่ยงโรค ไม่น่ากลัว???

"การดื่มนมเพียง 1 แก้ว มีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย...” ...นี่เป็นสิ่งที่มีการระบุในประเทศไทยมานานแล้ว และรัฐบาลก็มีการส่งเสริมให้เด็ก ๆ วัยเรียนได้มีการดื่มนมมานานแล้ว ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ผู้คนในสังคมไทยก็น่าจะมีการดื่มนมกันอย่างแพร่หลาย แต่เอาเข้าจริงกลับมิได้เป็นเช่นนั้น
ทั้งนี้ จากการจัดงานโภชนาการแห่งชาติ ครั้งที่ 4 ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “การขับเคลื่อนงานโภชนาการ เพื่อคุณภาพชีวิต” ณ ศูนย์การประชุมไบเทค บางนา เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยกลุ่มบริษัทดัชมิลล์ร่วมสนับสนุน ในงานนี้มีการสะท้อนถึงเรื่องนี้อย่างน่าสนใจ กล่าวคือ... การเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารทุกวันนี้ น่าจะทำให้มนุษย์เรา ที่สำคัญทำให้คนไทย ได้มีโอกาสบริโภคอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มมากขึ้น

แต่ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น

ตรงกันข้าม กลับสร้างความโน้มเอียงไปในทางการบริโภคอาหารที่เป็นอุปสรรคในการเติบโตของเด็ก ๆ และทำให้สุขภาพคนไทยที่ควรจะสมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ กลับต้องอ่อนแอลง

แท้ที่จริงแล้ว ธรรมชาติได้มอบอาหารที่ทรงคุณค่ายิ่งมาให้มนุษย์ หลายร้อยหลายพันปีแล้ว นั่นคือ “นม” แต่ในประเทศไทยกลับขาดการส่งเสริม การให้ข้อมูลข่าวสารในด้านคุณประโยชน์อย่างสม่ำเสมอ

ซ้ำร้าย กลับมีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดื่มนม ในมุมที่เกี่ยวกับผลเสียต่อสุขภาพ อาทิ การก่อให้เกิดโรคมะเร็ง? การก่อให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด?

ถามว่าข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร?

คำตอบของคำถามนี้ ในงานโภชนาการแห่งชาตินั้นมีเฉลย โดย รศ.ดร.ประไพศรี ศิริจักรวาล ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ จากมหาวิทยาลัยมหิดล ผู้เขียนหนังสือ “นม อาหารมากคุณค่า...เพื่อชีวิตและสุขภาพ” ซึ่งเป็นหนังสือที่ผู้สนใจขอรับได้ฟรี (ติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 0-2881-2222) ได้บรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยมีสาระและมีการไขข้อข้องใจของสังคมในหลายประเด็น โดยสรุปก็เช่น.....

การดื่มนมเพียง 1 แก้ว ก็ทำให้ได้คุณค่าทางโภชนาการมากมาย โดยเฉพาะการดื่มนมพาสเจอไรซ์รสจืดจะให้ประโยชน์และมีคุณค่ามาก นมเป็นแหล่งโปรตีน วิตามินบี 2 วิตามินเอ และแคลเซียมที่มีคุณภาพและมีปริมาณที่ได้มาตรฐานพอเหมาะกับความต้องการในชีวิตประจำวัน การดื่มนมเป็นประจำยังสามารถป้องกันกระดูกพรุน ช่วยชะลอความเสื่อมของกระดูก ลดความดันโลหิตสูง และลดการสะสมของไขมันในร่างกาย ซึ่งสามารถส่งผลต่อการควบคุมน้ำหนักได้ ทั้งนี้ นี่ก็ตอบโจทย์เรื่องประโยชน์ของการดื่มนม

จากรายงานเกี่ยวกับการประชุม อาหาร โภชนาการกับการป้องกันมะเร็ง ที่ประเทศอังกฤษ เมื่อเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2540 ได้มีการสรุปการวิเคราะห์ผลงานวิจัยมากกว่า 4,500 ฉบับ ซึ่งหลักใหญ่ใจความคือ อาหารที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง คืออาหารที่มีไขมันสูง มีใยอาหารต่ำ และมีสารต้านออกซิเดชั่นต่ำ

ต่อกรณีที่มีกระแสว่าการดื่มนมเกี่ยวข้องกับมะเร็งนั้น ข้อสรุปเป็นเพียงว่า... อาจเป็นไปได้ หรือเป็นการคาดเดา และที่มีรายงานคือความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งของบางอวัยวะ เช่น ไต ต่อมลูกหมาก ซึ่งในผลสรุปนั้นระบุไว้ว่าไขมันในนมอาจเป็นตัวที่ทำให้เกิดความเสี่ยงของมะเร็งชนิดนี้ โดยคนตะวันตกกินอาหารที่มีไขมันสูง ดื่มนมปริมาณมาก และกินผักผลไม้น้อย ได้ใยอาหารต่ำ จึงมีความเสี่ยงมาก ถ้ากินอาหารแบบไทย ๆ มีข้าว เนื้อสัตว์ไม่ติดไขมัน มีผัก มาก ๆ และกินผลไม้เป็นประจำ เลี่ยงอาหารผัด ๆ ทอด ๆ ไขมันที่ร่างกายได้รับก็จะไม่มากนัก

ที่สำคัญ จากผลการศึกษายังไม่มีข้อมูลยืนยันได้ว่านมเป็นต้นเหตุก่อให้เกิดมะเร็ง ในทางตรงกันข้ามส่วนประกอบในนมหลายชนิด มีส่วนช่วย “ป้องกันมะเร็ง” ได้เป็นอย่างดี

จุดนี้น่าจะตอบคำถาม...นมกับมะเร็ง

นอกจากนี้ กับกระแสเรื่องนมอาจเกี่ยวข้องกับการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดนั้น ก็ไม่มีปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่แสดงว่าการดื่มนมหรืออาหารนมอื่น ๆ ตามคำแนะนำ จะทำให้เป็นโรคดังกล่าวนี้ ในทางตรงกันข้าม การกินอาหารที่มีนมและผลิตภัณฑ์นม อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด

นี่ก็ตอบคำถามได้อีกหนึ่งคำถาม...อีกหนึ่งโรค

ทั้งนี้ จากข้อมูลเกี่ยวกับ “นม” ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ บางช่วงบางตอนก็ระบุว่า... ประโยชน์ของแคลเซียมในน้ำนม ช่วยทำหน้าที่ยืดหดของกล้ามเนื้อ ช่วยให้ระบบประสาทไวต่อสิ่งเร้ามากขึ้น ช่วยให้เลือดแข็งตัว และงานวิจัยระยะหลังยังพบว่า แคลเซียมที่มีในนมช่วยลดความดันโลหิต ลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ ขณะที่ข้อมูลจากรายงานของสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร ระบุว่า คนไทยดื่มนมราว 12.3 ลิตรต่อคนต่อปี หรือเฉลี่ยวันละประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อย

ต่อให้อาจเกิดผลลบได้บ้าง...แต่ดูที่ผลบวกแล้วมีเพียบ

“ดื่มนม” จึงเป็นสิ่งที่ควรจะสนใจทำ...มากกว่ากลัว!!.
ไขข้อเท็จจริงเรื่อง "นม" "มากคุณค่า เสี่ยงโรค ไม่น่ากลัว???
ที่มา dailynews