เหตุผลที่คนเรา นอกใจ


เหตุผลที่คนเรา นอกใจ
จากผลสำรวจคู่ที่นอกใจ นักวิจัยพบว่า... ปัจจุบันนี้จำนวนผู้หญิงนอกใจมีมากพอๆ กับผู้ชาย ฉะนั้นเลิกคิดซะทีว่า "ผู้หญิงไม่ทำหรอก!" ซึ่งผลวิจัยบอกสาเหตุที่ผู้ชายและผู้หญิงนอกใจคู่ของตัวไว้ดังนี้ค่ะ (รู้แล้วจะได้ป้องกันซะแต่เนิ่นๆ)


เหตุผลรองลงมาที่คนนอกใจคู่ (ทั้งผู้ชายและผู้หญิง)

1. สันดาน
2. ความเคยชิน
3. โอกาส
4. ความเชื่อ
5. ชดเชยสิ่งที่ขาดในชีวิตแต่งงาน/ในวัยเด็ก
6. แก้เผ็ดคู่สมรส
7. เบื่อ
8. เมียขี้บ่นสุดยอด


สันดาน

ฉันเคยเขียนถึงคนประเภทนี้ไปแล้วหลายครั้ง คือพวก serial cheater-นอกใจต่อเนื่อง (เรียกว่านอกใจเป็นสันดานน่ะเอง) พวกนี้จะเป็นผู้ชายประเภท woman hater-มีจิตใต้สำนึกเกลียดผู้หญิงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงทำร้ายจิตใจผู้หญิงไปเรื่อยๆ ไม่หยุดยั้ง ซึ่งหมายถึงว่าถึงเขาจะได้พบเจอผู้หญิงแสนดีต่อเขาขนาดไหน ผู้ชายแบบนี้ก็จะเนรคุณ ทรยศ หักหลัง และทำร้ายจิตใจเธอได้ตลอดเวลา โดยเป็นการกระทำแบบให้เธอรับรู้ด้วย ไม่ว่าจะทำเหมือนถูกเธอจับได้ หรือให้เธอรู้ว่าเขานอกใจแบบซึ่งหน้าเลยก็ตาม

เพราะโดยธรรมชาติพวกนอกใจแล้ว มักจะไม่ยอมถูกจับได้ง่ายๆ ถ้าถูกจับได้ก็จะกะล่อนโกหกเอาตัวรอดไปเรื่อยๆ จนวันสิ้นโลก แต่พวกนอกใจต่อเนื่องเพราะเกลียดผู้หญิง มักจะเผลอทิ้งร่องรอยไว้ให้เธอรู้ จะเป็นลืมมือถือทิ้งไว้ให้เธอเช็คข้อความ เผลอทิ้งเสื้อที่มีรอยกลิ่นน้ำหอมหรือลิปสติกของหญิงอื่นให้แฟนค้นเจอ เป็นต้น เนื่องจากเมื่อเขาทรยศแล้วเธอจับได้ เธอจะเจ็บปวดเสียใจปางตาย อันเป็นความมุ่งหวังตั้งใจของเขา ในระดับจิตใต้สำนึกตั้งแต่แรกที่เกลียดเพศหญิง และอยากลงโทษเธอ

เช่นเดียวกับผู้หญิงที่เป็น man hater-เกลียดผู้ชาย เธอมุ่งทำร้ายผู้ชายทางอ้อม เพราะจิตใต้สำนึกของเธอเกลียดเพศชายและอยากแก้แค้นนั่นเอง

เบื้องหลังผู้ชายนอกใจเป็นสันดาน มักมาจากปมรัก/เกลียดแม่ และผู้หญิงนอกใจแฟนซ้ำซากมาจากปมรัก/เกลียดพ่อ (love/hate relationships)

คนพวกนี้มักมีความสัมพันธ์ผิดประหลาดกับแม่หรือพ่อของตัวเอง เช่น แม่ไม่รัก แม่ไปมีแฟนใหม่มีลูกใหม่แล้วทอดทิ้งเขา หรือแม่ที่ติดเขาแจมากและกรอกหูเขาเช้าเย็นว่า "ในโลกนี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนจริงใจกับลูกเท่าแม่ แม่คนเดียวเท่านั้นที่รักลูกมากที่สุด ผู้หญิงคนอื่นมีแต่หลอกลวงลูกแม่" ผู้หญิงที่ถูกตัวแทนพ่อทำร้าย เช่น พ่อเลี้ยงข่มขืน หรือถูกแฟนคนแรกที่เธอรักมากหลอกลวง ก็มาจากปม love/hate relationships เช่นกัน

ผู้ชายแบบนี้ ผู้หญิงไม่ควรเข้าใกล้ ควรหนีห่างไปให้ไกลที่สุด และผู้หญิงแบบนี้ก็ไม่ใช่ damaged souls-ดวงวิญญาณถูกทำร้าย ที่ผู้ชายแบบคุณจะเข้าไปกอบกู้ได้ พวกเขาป่วย ป่วยหนักมาก อย่าเข้าไปยุ่งเป็นดีที่สุด


ความเคยชิน

กรณีความเคยชินนั้น เกิดจากการเคยนอกใจแฟนคนอื่นๆ มาแล้วได้ผล ไม่มีผู้หญิงคนไหนยอมเลิกกับเขาสักที (อาจเพราะเขาหล่อรวยออพชั่นครบ หรือเซ็กซ์เก่งเข้าขั้นเทพก็ได้ เลยตัดใจไม่ลง) ก็เลยเกิดการบ่มเพาะเป็น ความเคยชิน เหมือนเด็กที่ถูกพ่อแม่ตามใจจนเสียเด็กนั่นเอง ความที่เคยเรียกร้องทุกอย่างได้จนเคยตัว ทำให้ติดนิสัยแบบนี้ไปเรื่อยๆ เลิกไม่ได้ซะที

ผู้หญิงมากมายหลงเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองเป็นฮีโร่สาว ลบลายคาสโนว่าได้ ขอบอกว่าคุณกำลังคิดผิด เพราะชีวิตของคุณมีค่ามากเกินกว่าจะมาเสียเวลาดัดนิสัยเด็กสปอยล์

ความเคยชินนี้ยังเกิดจากการที่เขา โตมากับการเห็นพ่อนอกใจแม่ เห็นพี่ชายนอกใจเมีย เห็น father figure หรือตัวแทนพ่อ ที่อยู่ร่วมครอบครัวภายในบ้าน นอกใจผู้หญิงของตัวเอง จนเป็นความเคยชินว่าการทำแบบนี้มันไม่ผิด ถูกต้อง ลูกผู้ชายสมควรทำ

เรื่องที่น่าแปลกใจสุดๆ คือ เด็กๆ ที่โตมากับปัญหาพ่อแม่ติดเหล้า ต่อให้พวกเขาเกลียดเหล้าแค่ไหน เมื่อโตขึ้นเขามักจะติดเหล้าไปด้วย เช่นเดียวกันกับเด็กผู้ชายที่โตมากับการเกลียดที่พ่อนอกใจแม่ เมื่อโตขึ้นเขาอดไม่ได้ที่จะ repeat circle หรือทำซ้ำวงจรอุบาทว์แบบเดิมๆ กับผู้หญิงของเขาแบบเดียวกับที่พ่อเคยทำกับแม่และเขาไม่ชอบเอามากๆ นั่นเอง

นักจิตวิทยาตอบคำถามนี้ไว้ว่า เป็นเพราะเด็กน้อยคนนั้นมีความเชื่อฝังในจิตใต้สำนึกว่า "พ่อแม่ที่มีความสำคัญต่อเราเป็นอย่างไร เราในฐานะลูก มักอดไม่ได้ที่จะเดินตามรอยนั้น" อันเนื่องมาแต่ความเคยชินตัวนี้นี่เองค่ะ

เพราะฉะนั้น ถ้าเพื่อนสาวของฉันเจอผู้ชายที่พ่อมีเมียน้อยยุ่บยั่บเยอะบ้านไปหมด ให้ทำใจไว้ก่อนว่าเขาอาจจะตกหลุมเดียวกับพ่อก็ได้เพราะความเคยชิน ยกเว้นว่าเขาจะมีจิตวิญญาณภายในสูงพอที่จะก้าวพ้นปมในใจข้อนี้ ไม่ยอมเดินตามรอยพ่อ ซึ่งผู้ชายแบบนี้ก็มีค่ะ เขาเหมือนปลาว่ายทวนน้ำ แต่...ดวงวิญญาณที่อ่อนแอเป็นปลาว่ายตามน้ำมีเยอะกว่า ขึ้นอยู่กับว่าเพื่อนสาวของฉันจะมีเซ้นส์เฉียบคมขนาดไหนจนแยกแยะออกได้ว่าผู้ชายที่เราเจอเป็นปลายว่ายทวนน้ำหรือว่ายตามน้ำ


โอกาส

ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าโอกาสเป็นใจมีผลมากต่อการทำการนอกใจ บางคนได้แต่คิด แต่โอกาสไม่ให้ก็ทำไม่ได้ โอกาสนั้นได้แก่ การทำงานท่ามกลางเพศตรงข้ามหน้าตาดีๆ มากมายเป็นนิจสิน หน้าที่การงานให้ต้องเดินทางไกลหูไกลตาคู่ชีวิตบ่อยๆ อาชีพทำให้ต้องเลี้ยงเอ็นเตอร์เทนลูกค้าเกือบทุกคืน ที่บ้านมีพี่เลี้ยงเด็กหรือคนใช้ผู้หญิงแหล่มๆ อยู่ร่วมบ้านตลอดเวลา

ผู้หญิงหลายคนแก้ปัญหานี้ด้วยการประกาศก้องว่า "ตัดโอกาสที่เขาจะนอกใจได้ซะก็หมดเรื่อง" ด้วยการปิดกั้นไม่ให้เขาคบเพื่อน ตัดโอกาสไม่ให้เขาไปนอกลู่นอกทางได้ด้วยการบังคับให้แฟนอยู่กับเราแจตลอดเวลา หรือคุมประพฤติเขาแบบเข้มงวดสุดชีวิตยิ่งกว่าคุก foxriver ในซีรีส์นักโทษแหกคุก prison break ซะอีกแน่

ทว่า...ขนาดในซีรีส์ พระเอกสุดหล่อยังแหกคุกออกมาได้เลย คิดดู ฉันใดฉันนั้น ผู้เชี่ยวชาญก็ย้ำว่า โอกาสเป็นใจเป็นแค่ตัวจุดชนวนให้เรื่องมันเกิดเท่านั้น ไม่ใช่ปัจจัยหลักของการนอกใจ ปัจจัยหลักคือความสุขในชีวิตคู่ต่างหากล่ะคะ เพราะถ้าคนเรามีความสุขในชีวิตคู่ ต่อให้มีโอกาสเราก็จะไม่นอกใจเด็ดขาด เนื่องจากสิ่งที่เรากลัวที่สุดคือกลัวสูญเสียความสุขในชีวิตไป

ฉะนั้น การมุ่งคุมเข้มความประพฤติเพื่อตัดโอกาสไม่ให้คู่นอกใจเราได้นั้น นอกจากจะเป็นการแก้ที่ปลายเหตุแล้ว ยังเป็นตัวเร่งให้คู่เราไม่มีความสุข-อันเป็นปัจจัยหลักของการ cheating-อีกด้วย!!!


ความเชื่อ

ใครบอกว่าความเชื่อไม่สำคัญ สำคัญมากเลยค่ะพี่น้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ชายไทย ผู้ชายไทยมักเชื่อผิดๆ ต่อกันมาว่าการนอกใจแฟนเป็นเรื่องปกติ เป็นชายชาตรี ผู้หญิงไทยก็พลอยรับเอาความเชื่อด้านลบที่เป็น negative belief นี้ติดตัวไปด้วยว่า "ผู้ชายเจ้าชู้ทุกคน" ซึ่งเป็นเสมือนพาสปอร์ตผ่านแดนที่ทำให้แฟนเราใช้เป็นข้ออ้างในการมีชู้กี่รายๆ ก็ไม่ผิด เพราะ "ผู้ชายเจ้าชู้ทุกคนแหละเธอ เป็นเรื่องปกติ"

ความเชื่อผิดๆ อีกกรณีหนึ่งคือ poor self-image หรือ การมองตัวเองต้อยต่ำ เป็นคนไม่ดี เช่น ผู้ชายบางคนก็มีปมในใจตอกย้ำว่าตัวเองเป็นคนเลว คนพวกนี้มักจะมีแฟนแสนสวยแสนดีเอาไว้เป็น "แม่พระผู้แสนสวยแสนดีและเข้าใจความเลวของเขาทุกอย่างแล้วยังให้อภัยได้" ทั้งนี้เพื่อยืนยันความเชื่อฝังใจด้านลบเกี่ยวกับตัวเองว่า "เห็นไหม ชาตินี้ผมไม่มีวันเป็นคนดีได้" ฉะนั้น คนพวกนี้จะไม่ยอมเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนดีขึ้น เพราะการเป็นคนแย่ๆ นั้นคือการได้คอนเฟิร์มภาพลักษณ์ด้านลบที่เขาเชื่อว่าตัวเองเป็นนั่นเอง เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาสามารถเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อตัวเองได้ นั่นแหละเขาถึงจะเปลี่ยนพฤติกรรม (shift of attitude)


ชดเชยสิ่งที่ขาดในชีวิตแต่งงาน/ในวัยเด็ก

เด็กที่โตมากับพ่อหรือแม่มีโทษสมบัติที่กระทบจิตใจเขาอย่างรุนแรง มักดึงดูดคู่ที่มีโทษสมบัติสะท้อนพ่อหรือแม่ของตัวเองโดยไม่รู้ตัว ทั้งนี้เป็นกลไกอัตโนมัติทางจิตใต้สำนึกที่จะ "แก้ไขชดเชย" นั่นเอง แต่เผอิญเจ้าตัวไม่รู้ตัว ไม่ตื่นรู้ ทำให้ไม่สามารถรับมือจัดการกับปมในใจนี้ได้ จึงแสดงออกแบบผิดๆ ด้วยการนอกใจไปหาคนที่จะมาเติมเต็มสิ่งเขาขาดได้ เช่น กรณีพ่อแม่ห่างเหินเย็นชาไม่แสดงความรัก แทนที่เขาจะดึงดูดคู่ที่แสดงความรักความใส่ใจใกล้ชิด จิตใต้สำนึก (subconscious) ของเขากลับดึงดูดคู่ที่ห่างเหินเย็นชาเหมือนพ่อหรือแม่ ทั้งนี้เพื่อสร้างโอกาสใหม่ให้เขาได้แก้ไขปมเดิม แต่เผอิญในระดับ conscious-จิตสำนึกปกติของเขาไม่รับรู้ปมข้อนี้ เลยทำให้เขาไม่แก้ไขปมนั้น กลับวิ่งไปหาการชดเชยความรักจากชู้รักที่เหมือนใส่ใจเขามากกว่า รักเขามากกว่าคู่ชีวิตของตัวเอง จึงเกิดการนอกใจขึ้น

ชู้รัก 99% มักเป็นตัวแทนสิ่งที่เราอยากได้แต่ไม่เคยได้มาในชีวิตจริง เป็นเสมือน fantasy ที่เมื่อความจริงโรยตัวเข้ามา ภาพฝันก็จะจางหายไป นี่คือสาเหตุว่าทำไมเวลาถึงคราวที่จะต้องเลือก ผู้นอกใจส่วนใหญ่มักกลับไปหาคู่ชีวิตตัวเองเสมอแล้วเลิกกับชู้รัก เพราะแฟนตาซีเป็นเรื่องไม่จีรังยั่งยืน ความมั่นคงในความสัมพันธ์เป็นเรื่องสำคัญกว่า เขาจึงเลือกยึดมันไว้แล้วยอมสละแฟนตาซีตัวเอง ฉะนั้น ความคาดหวังของมือที่ 3 ว่า "เขาจะทิ้งแฟนเขามาอยู่กับฉัน" จึงมีความเป็นไปได้น้อยกว่าการที่เขาจะทิ้งคู่มาหาเราเอง

ข้อที่น่าสนใจคือ มีกรณีจำนวนมากที่ผู้นอกใจเลิกกับชู้รักคนแรกเพื่อกลับไปหาภรรยา/สามี หรือแฟนจริงจังของตัวเอง แต่แล้วก็นอกใจซ้ำอีกกับชู้คนใหม่ไปเรื่อยๆ จนกลายเป็น พฤติกรรม serial cheater-นอกใจต่อเนื่อง คนประเภทนี้มีปมเด็กไม่รู้จักโต คือชอบถือของเล่นไว้ในมือทั้ง 2 อย่าง ของเล่นที่คุ้นเคยกับของใหม่น่าตื่นเต้น พอเขาทิ้งของเล่นใหม่เพื่อจะยึดของเล่นเก่าคุ้นเคย มือข้างที่ว่างก็จะคว้าของเล่นใหม่อีก ทำให้คู่ชีวิตของพวกเขาเข้าใจผิดว่าเขารักเธอเป็นที่หนึ่ง หญิงอื่นแค่ตัวสำรอง เลยเที่ยวคุยโวว่า "เขานอกลู่นอกทางทีไรก็กลับมาตายรังทุกที" โดยลืมคิดถึงข้อเท็จจริงไปว่าอาการแบบนี้กำลังแสดงว่าคู่ของเราเป็นเด็กที่ขังในร่างผู้ใหญ่ ขาดความรับผิดชอบ ไม่รู้จักโต ไม่มีวุฒิภาวะ เอาความสุขของตัวเองมาก่อนทุกข์ของคนอื่น ไม่เคยคิดรักใครหรือเสียสละให้ใครอย่างจริงจัง คิดแต่จะได้ไม่ยอมเสีย คนแบบนี้ไม่มีค่าพอจะเป็นคู่ของใครทั้งสิ้น


แก้เผ็ดคู่สมรส

จากผลสำรวจคู่ที่นอกใจพบว่า
1. พวกเขาโดนนอกใจก่อนจึงคิดแก้เผ็ด
2. พวกเขาโดนข่มขู่ บีบคั้น หรือปฏิบัติอย่างดูถูกเหยียดหยามจากคู่ แต่แทนที่จะเผชิญหน้ากับปัญหา หรือถ้าแก้ไขพฤติกรรมกันไม่ได้ก็เลิกรากันแบบผู้ใหญ่เขาทำกัน เขากลับเลือกทางแก้เผ็ดด้วยการนอกใจแฟน ซึ่งแสดงถึงวุฒิภาวะเป็นเด็ก ไม่เติบโตเป็นผู้ใหญ่พอจะแก้ไขปัญหาแบบคนที่เติบโตทางความคิดและจิตใจ


เบื่อ

ชีวิตคู่ที่สุดแสนจะน่าเบื่อเป็นสาเหตุใหญ่ลำดับที่ 3 รองจาก ความรู้สึกไร้ค่า (under appreciate) และการคบเพื่อนฝูงที่นอกใจแฟนเลยละค่ะ

"Ninety-nine percent of the time, there’s a simple reason why men cheat: boredom," Steve Santagati อดีตนายแบบที่ผันตัวมาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ และกลายเป็นนักเขียนขายดี/แขกรับเชิญเรื่องความรักให้กับรายการทีวีดังๆ มากมายอย่างทูเดย์โชว์ ไทร่า แบงค์สโชว์ และเรเชล เรย์ ฟันธง

คู่รักคู่สมรสมักเข้าใจผิดระหว่างชีวิตคู่ที่มั่นคงกับชีวิตคู่ที่น่าเบื่อ ทำให้เราปล่อยปละละเลยชีวิตรัก ไม่เติมเสน่หา ไม่เอาใจใส่ดูแลหัวใจกันและกัน จนชีวิตคู่ไถลลงสู่หลุมเดิมของความซ้ำซาก จำเจ คาดเดาได้ และน่าเบื่อสุดขีด จนเมื่อมีอะไรใหม่ๆ น่าตื่นเต้นเข้ามา ความยับยั้งชั่งใจของเราจึงพังทลายทันที


สัญญาณเตือนว่าชีวิตรักกำลังตกจุดอับของความเบื่อหน่ายสุดขีดคือ

1. คุณหรือคู่เลิกสนใจทำให้รูปร่างหน้าตาตัวเองดึงดูดกันและกัน ไม่ใช่เพราะทำงานเหนื่อย แต่เพราะอยู่กันมาจนเลิกใส่ใจกันแล้ว
2. คุณหรือคู่ หมดความ "อยาก" มีเซ็กซ์ด้วยกัน เป็นแค่เพื่อนร่วมเตียงกันเท่านั้น ไม่ใช่เพราะเหนื่อย แต่เพราะแค่คิดก็เบื่อจะตายแล้ว
3. คุณหรือคู่ไม่อยากพูดหวานๆ ให้กันฟัง เพราะรู้สึกว่าไม่จำเป็น ไม่รู้จะพูดเพราะๆ ให้เขาฟังไปทำไม
4. ถ้าเป็นไปได้ จะไม่อยากใช้เวลาอยู่ด้วยกัน อยากออกไปเจออะไรข้างนอกมากกว่าเจอหน้ากันเอง


เมียขี้บ่นสุดยอด

อันนี้เป็นเหตุผลของผู้ชายแทบทั้งโลกที่คิดตรงกัน แต่...ผู้หญิงเรามักไม่ค่อยฟังนิ!!!

สุดหล่อสตีฟอีกเช่นเคยที่ออกมาฟันธงเปรี้ยงอีกแล้วค่ะท่าน "ไม่มีอะไรผลักไสคุณพ่อบ้านให้ไปหาอ้อมกอดหญิงอื่นได้เร็วเท่ากับเมียขี้บ่นอีกแล้ว" เขาเปรียบได้น่าเจ็บใจมากว่า...ผู้หญิงขี้บ่นก็เหมือนยุง..."ผู้ชายจะไม่อยากมีเซ็กซ์กับผู้หญิงขี้บ่นพูดมาก แต่อยากจะไล่ไปซะให้ไกลๆ" กรี๊ดดดดด พูดตรงเกินไปรึเปล่าคะคุณขา!


ขอบคุณที่มาบทความจาก นิตยสารเปรียว