แม้จะมีความก้าวหน้าใหม่ ๆ มารักษาโรคมะเร็ง แต่โรคที่น่าหวาดกลัวนี้ยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตลำดับ 2 ในสังคมของเรา
ดร.ดีปัก โชปรา ผู้เขียนหนังสือ ′อ่อนวัยลง ชีวิตยาวขึ้น′ มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิตามินและโรคมะเร็ง
วิตามินเอและแคโรทีนอยด์
การศึกษาในห้องปฏิบัติการ แสดงว่าวิตามินเอและแคโรทีนอยด์ หลายชนิดอาจชะลอการเติบโตของมะเร็งที่ต่อมลูกหมาก ปากมดลูก ช่องปาก และผิวหนัง แต่ผลการศึกษาไม่มีความชัดเจนในการพิสูจน์ถึงประโยชน์ทางการแพทย์ของการใช้เป็นอาหารเสริมไลโคปีนเป็นแคโรทีนอยด์ชนิดหนึ่งที่น่าสนใจกว่า พบปริมาณเข้มข้นสูงในมะเขือเทศ สารต้านการออกซิเดชั่นที่มีฤทธิ์แรงชนิดนี้น่าจะมีบทบาทป้องกัน มะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นการกระตุ้นอย่างดีให้รับประทานมะเขือเทศเป็นประจำ ข้อสรุปคือ การกินอาหารที่อุดมด้วยแคโรทีนตามธรรมชาติ โดยใช้อาหารเสริมอย่างเหมาะสมเพื่อประกันว่าจะได้รับในปริมาณที่เพียงพอและดีต่อสุขภาพ
วิตามินอี
หลายปีมาแล้วที่การศึกษากับสัตว์ในห้องปฏิบัติการได้แสดงว่า วิตามินอีสามารถลดการเกิดโรคมะเร็งหลายชนิด และชี้ว่าจะ มีประโยชน์ต่อคนทั่วไปเช่นกัน การศึกษาจำนวนมากจาก จีนพบว่าผู้ที่กินเบต้าแคโรทีน วิตามินอี และเซเลเนียมเสริมจากปริมาณปกติทุกวันจะลดอัตราการเกิดมะเร็งอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับโภชนาการอย่างอื่น รายงานอื่น ๆ ได้สนับสนุนทรรศนะที่ว่าวิตามินอีอาจ ช่วยป้องกันมะเร็งช่องปาก ช่องคอ และต่อมลูกหมาก การได้รับอาหารดีมีสารต้านการออกซิเดชั่นที่มี
ประสิทธิภาพทุกวันเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาความ
มีสุขภาพดีอย่างอ่อนเยาว์
วิตามินซี
ข้อพิสูจน์ที่ว่าวิตามินซีเป็นการป้องกันมะเร็งได้จากการ ทดลองในห้องปฏิบัติการมากกว่าจากการศึกษากับคนจริง ๆ ซึ่งเป็นความจริงเช่นเดียวกับวิตามินชนิดอื่นที่มีบทบาทต้านการ
ออกซิเดชั่น มีข้อเสนอแนะว่าวิตามินซีสามารถลดความเสี่ยงของ มะเร็งในระบบสืบพันธุ์เพศหญิง ช่องคอ ทางเดินอาหารและทางเดินหายใจ ยังคงต้องพิสูจน์ว่าการค้นพบในห้องปฏิบัติการเหล่านี้จะตรงกับในคนหรือไม่ เนื่องจากโดยทั่วไปแล้ววิตามินซีสามารถเสริมได้ในปริมาณสูงเป็นพิเศษ นักโภชนาการจำนวนมากจึงส่งเสริมให้กินวิตามินซีเป็นประจำ
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ/http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1265365075&grpid=07&catid=no§ionid=0225
