เทคนิค"เลือก-ใช้"กระเป๋านักเรียนอย่างเหมาะสม

เทคนิค"เลือก-ใช้"กระเป๋านักเรียนอย่างเหมาะสม ในอดีต เด็กนักเรียนตัวเล็กจิ๋วหิ้วกระเป๋าหนังสีดำกันจนตัวเอียงคงเป็นภาพที่ผู้ใหญ่เห็นกันจนชินตา ในกระเป๋านักเรียนใบเล็ก ๆ อัดแน่นไปด้วยสมุด หนังสือ จำนวนมากที่ต้องขนไปขนกลับระหว่างบ้านกับโรงเรียน หันกลับมาในยุคปัจจุบัน โชคดีที่เด็กหลายคนมีกระเป๋าเป้เข้ามาแทนที แต่ก็ไม่พ้นต้องแบกหนังสือเพื่อไปเรียนกันอยู่ดี

ในแต่ละปีมีเด็กจำนวนไม่น้อยที่ต้องบาดเจ็บกับอาการปวดไหล่ - ปวดหลังเพราะต้องแบกกระเป๋าหนังสือน้ำหนักมาก เพื่อลดความเสี่ยงของลูกน้อย เราจึงมองหาคำแนะนำดี ๆ ในการพิจารณาเลือกกระเป๋านักเรียน และการใช้งานที่เหมาะสมมาฝากกันค่ะ

1. เลือกกระเป๋าสะพายที่มีน้ำหนักเบา ขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน และอายุของเด็ก

2. ใส่หนังสือ หรืออุปกรณ์การเรียนเท่าที่จำเป็น ไม่ควรใส่หนังสือเยอะจนเด็กแบกไม่ไหว สังเกตได้จากเวลาลูกสะพายกระเป๋าว่าเขาต้องเดินโน้มตัวมาข้างหน้าหรือไม่ ถ้าใช่ ก็แปลว่า กระเป๋าใส่ของมากเกินไป หรืออีกหนึ่งวิธีคำนวณก็คือ สัมภาระที่จะบรรจุไม่ควรหนักเกิน 15 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัวเด็ก

3. เวลาเลือกซื้อควรพิจารณาสายกระเป๋านักเรียน และบริเวณหลัง สองจุดนี้ควรมีฟองน้ำ บุภายใน เพื่อป้องกันไหล่กับหลังของลูก อีกทั้งยังช่วยป้องกันเด็กจากการถูกดินสอ ปากกา หรืออุปกรณ์การเรียนแทงทะลุกระเป๋าออกมาทิ่มเนื้อได้ด้วย

4. การจัดหนังสือในกระเป๋า ควรจัดหนังสือเล่มใหญ่ที่สุดหรือหนักที่สุดใส่ไว้ชิดในที่สุด

5. เมื่อลูกสะพายกระเป๋า ควรใช้สายสะพายทั้งสองข้าง การสะพายกระเป๋าด้วยไหล่เพียงข้างเดียวอาจทำให้ไหล่ข้างดังกล่าวของลูกต้องรับน้ำหนักมากเกินไป และทำให้ร่างกายไม่สมดุลกัน นอกจากนั้น ควรปรับสายสะพายไม่ให้แน่นเกินไปด้วย

6. หากกระเป๋าสะพายที่ซื้อมามีสายรัดบริเวณเอว ก็ควรใช้ด้วยเช่นกัน เพราะจะช่วยให้การแบกง่ายดายยิ่งขึ้น

นอกจากนั้น อุปกรณ์สำคัญที่ผู้ปกครองไม่ควรลืมในช่วงหน้าฝนก็คือร่มคันเล็ก ๆ หรือชุดกันฝนสีสดใสสำหรับให้เด็ก ๆ ใส่หากเจอฝนตก เป็นการปกป้องอีกชั้นหนึ่ง ก่อนไข้หวัดจะถามหาค่ะ

เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจากเฮลท์เดย์นิวส์

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์