ลูกติดเว็บโป๊ทำอย่างไรดี/ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ

ลูกติดเว็บโป๊ทำอย่างไรดี/ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในปัจจุบันมีเวปเกี่ยวกับเรื่องเพศ ภาพคลิปโป๊ต่างๆซึ่งเป็นเวปที่เป็นอันตรายต่อเด็กเป็นอันมาก และเนื่องจากโลกปัจจุบันนี้เป็นยุคของสังคมออนไลน์ จึงเป็นการเสี่ยงสำหรับเด็กๆต่อการเข้าไปมีส่วนร่วมในการข้องแวะกับสื่อที่ไม่สมควรดังกล่าวไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตามจากข้อมูลของเวปป้องกันความรุนแรงทางเพศหรือป้องกันการติดสื่อลามกต่างๆพบว่าเด็ก อายุระหว่าง 10-17 ปี 1 ใน 5 คนได้รับสื่อหรือภาพโป๊ผ่านทางอินเตอร์เนต เด็ก 1 ใน 4 คนที่ใช้อินเตอร์เนต เข้าไปข้องแวะกับเวปโป๊ทั้งที่โดยเจตนาและไม่เจตนา อีเมล์ที่ส่งติดต่อหากันในปัจจุบัน มากกว่า 2 หมื่นล้านฉบับเป็นเวปโป๊ เด็กวัยรุ่น 21 % ยอมรับว่าเข้าไปดูเวปโป๊โดยไม่บอกให้พ่อแม่รู้

จากเหตุผลดังกล่าวทำให้คุณพ่อคุณแม่หนักใจเพราะไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไรดี คำแนะนำต่อไปนี้จะช่วยคุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ปกครองในการช่วยให้เด็กสามารถห่างไกลจากสื่ออันตรายดังกล่าวได้

1.แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือ สอนและให้ความรู้ที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษา การคุมกำเนิด อย่าให้เวปต่างๆเป็นผู้สอนลูก แต่เราเป็นผู้ใกล้ชิดกับลูกมากกว่า ควรพูดคุยและให้ความรู้ที่ชัดเจน เมื่อลูกเข้าใจแล้ว ความอยากรู้อยากเห็นก็จะลดน้อยลง

2.อายุของเด็กและพัฒนาการของเด็กในแต่ละคนก็เป็นสิ่งที่สำคัญและเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึง หากเป็นเด็กเล็ก เด็กอาจดูโดยไม่มีความเข้าใจอะไรมากนัก แต่เผอิญเปิดไปเจอ แต่หากเป็นช่วงวัยรุ่น ต้องให้ความรู้ความเข้าใจที่ชัดเจน การปกปิดเรื่องเพศทำให้เด็กสงสัยและอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น

3. คุณพ่อคุณแม่ต้องตั้งกฎให้ชัดเจนกับลูกในการสืบหาข้อมูลในอินเตอร์เนตทุกครั้ง บอกลูกถึงอันตรายของเวปต่างๆที่อาจเข้ามารบกวนขณะที่เรากำลังสืบหาข้อมูลที่อินเตอร์เนต อาจเขียนเป็นข้อตกลงและลงชื่อกำกับร่วมกันเพื่อความชัดเจน

4. กฎนี้ต้องใช้ได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน เพราะในโรงเรียนหรือห้องสมุดอาจมีโปรแกรมป้องกันการเข้าไปดูเวปที่ไม่สมควรแต่บางครั้งอาจเด็กไปที่บ้านเพื่อนหรือญาติอาจไม่ได้มีโปรแกรมดังกล่าว ดังนั้นต้องเตือนเด็กๆว่ากฏการใช้อินเตอร์เนต ครอบคลุมทั้งในบ้านและนอกบ้านด้วย

5. คุณพ่อคุณแม่ควรมีโปรแกรมป้องกันเวปที่ไม่สมควรดังกล่าว ซึ่งอาจหาข้อมูลได้จาก cybersitter

6. ในกรณีเด็กแอบดู หรือเริ่มติดโดยไม่บอกคุณพ่อคุณแม่ อาจใช้วิธีการเปิดกว้างโดยการให้เด็กดูไปพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่ เพราะธรรมชาติของเด็ก อยากรู้อยากเห็น ดังนั้นการยิ่งห้ามอาจเหมือนยิ่งยุ การสอนและหาวิธีให้ความรู้ต่างๆจะอาจช่วยให้เด็กลดความสงสัยหรือลดความอยากรู้อยากเห็นได้

7. อย่าจัดให้ในห้องของลูกมีคอมพิวเตอร์ แต่ควรจัดไว้ในที่ๆคุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง

ปัจจุบันสื่อต่างๆมากมายที่อยู่รอบตัวเรามีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ต้องฉลาดในการป้องกันลูกให้พ้นจากสื่อที่เป็นอันตรายต่อเด็ก โดยการให้ความรัก ความเข้าใจ และให้ความรู้ควบคู่กันไป ซึ่งวิธีนี้จะช่วยสร้างเด็กให้เป็นคนฉลาดในการแยกแยะได้ว่าอะไรเป็นสิ่งดีและอะไรเป็นสิ่งไม่ดีที่ควรหลีกเลี่ยง อย่าใช้วิธีวัวหายล้อมคอก เพราะนั่นอาจจะสายเกินไป

ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์