'ไปอัมพวา' เที่ยวตลาดน้ำย้อนความสุขวันวาน

เพลินสีสัน'อัมพวา'โฉมใหม่ เที่ยวตลาดน้ำย้อนความสุขวันวาน ด้วยความโดดเด่นของระยะทาง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร อัมพวา อำเภอหนึ่งในจังหวัดสมุทรสงครามแห่งนี้ นอกเหนือจากสีสันบรรยากาศตลาดน้ำชวนเดินเพลิดเพลินใจแล้ว สถาปัตยกรรมบ้านเรือน วิถีชีวิตของชาวชุมชนที่นี่ ยังมีมนต์เสน่ห์ชวนค้นหา...

ตลาดน้ำอัมพวา นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย หรือชาวต่างชาติต่างตอบรับแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนไม่ขาดสาย ด้วยเพราะสีสันมนต์เสน่ห์ของตลาดริมคลองที่มีพ่อค้าแม่ขายพายเรือลอยลำนำอาหารหลากหลายอย่างมาให้เลือกลิ้มลอง ทั้งก๋วยเตี๋ยว ขนมหวาน ผลไม้ อาหารทะเลปิ้งย่าง ฯลฯ โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกอาหารที่ชอบแต่ละชนิดได้อย่างใกล้ชิด

ขณะเดียวกันสองฟากฝั่งน้ำซึ่งมีบ้านเรือนไม้เรียงรายก็มีหลากหลายร้านอาหาร ร้านค้า ที่พักบรรยากาศสบาย ๆ ให้เลือกเดินจับจ่ายเพลิดเพลิน ย้อนความสุขความทรงจำวันวาน และด้วยความที่อัมพวาเป็นจุดหมายของการเดินทางมาพักผ่อนช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ นอกเหนือจากสีสันอาหารคาวหวาน ขนมไทยโบราณหลากหลายรูปแบบชวนชิมลิ้มรสชาติความหวานอร่อย ในย่านตลาดอัมพวายังมีสีสันของอาคารชวนเดินเที่ยวชม โดยล่าสุด เทศบาลอัมพวา ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) รวมทั้งชาวชุมชนเจ้าของอาคาร ต่างพร้อมใจกันร่วม ฟื้นฟู บูรณะทาสีกลุ่มอาคารพาณิชย์ให้มีเอกลักษณ์เหมาะกับวิถีชีวิตชุมชนริมคลอง สร้างความภูมิใจให้กับชาวอัมพวา และความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว

ในด้านสีสันอาคาร ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบสีให้ความรู้เกี่ยวกับอาคารตึกแถวสองชั้นบริเวณตลาดอัมพวาว่า มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เรียบง่าย แต่ละคูหามีครีบกั้นด้านข้าง ประตูหน้าบ้านมีทั้งที่เป็นบานเฟี้ยมเหล็กและไม้ ฯลฯ และจากสภาพอาคารบริเวณเปลือกนอกที่เริ่มเปลี่ยนสภาพ และการศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมือง จึงก่อเกิดความพิถีพิถันของการเลือกใช้สีที่ปรากฏ โดยแต่ละสีต่างมีเอกลักษณ์ และความหมายที่น่าสนใจ อย่าง สีเขียว ด้วยความที่เมืองอัมพวาเป็นสถานที่พระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 โดยตรงกับวันพุธก็ได้ใช้สีเขียวในการทาสีตึกเพราะเป็นสีประจำวันพระราชสมภพของรัชกาลที่ 2

นอกจากนี้ทรงมีบทพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องรามเกียรติ์และตัวเอกของเรื่องคือ พระราม รวมทั้งความสอดคล้องกับชื่อ เมืองอัมพวา ที่แปลว่า ป่ามะม่วง โดยทั้งใบและผลของมะม่วงต่างก็เป็นสีเขียว เป็นต้น ขณะเดียวกันในทางวิทยาศาสตร์ สีเขียวเป็นสีที่มองเห็นได้ดีกว่าทุกสีแม้ในสภาพที่มีแสงน้อยหรือแสงสลัว ซึ่งในกิจกรรมการท่องเที่ยวตลาดอัมพวามีบรรยากาศของตลาดน้ำยามเย็น สีเขียวจึงเป็นสีที่เหมาะสมสำหรับสภาพแสงก่อนสิ้นแสงธรรมชาติไปสู่แสงไฟยามค่ำคืน

ไม่เพียงสีเขียวที่มีความโดดเด่น สีที่ปรากฏบนอาคารยังมี สีเหลืองและชมพู ซึ่งก็มีที่มา อีกทั้งยังสร้างความสดใสให้กับอาคารได้เช่นเดียวกัน โดย สีเหลืองเป็นสีดั้งเดิมที่ทาทั่วไปช่วยสร้างบรรยากาศในภาพอดีตให้เกิดความงาม ส่วน สีชมพู มีองค์ประกอบของสีแดงผสมขาวมีที่มาจากสีเปลือกลิ้นจี่ ผลไม้ขึ้นชื่อของอัมพวา ฯลฯ ซึ่งก็เป็นอีกสีสันมนต์เสน่ห์ของการเดินเที่ยวชม

นอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้น อัมพวายังมีสีสันของการท่องเที่ยวอีกหลากหลายซึ่งในวันวาน อัมพวาถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำที่มีความสำคัญ บ้านเรือนที่ปลูกสร้างสองฝั่งน้ำล้วนมีความโดดเด่นเป็นห้องแถวไม้ เรือนพื้นถิ่นโดยตลอดชุมชนมีความยาวประมาณ 800 เมตร ซึ่งสามารถเลือกเดินเพลิดเพลินหรือจะนั่งเรือชมวิวสองฝั่งน้ำก็ได้ความเพลิดเพลินไปอีกแบบ

นอกจากนี้เมื่อมาถึงอัมพวา ยังสามารถแวะเที่ยว พิพิธภัณฑ์ขนมไทย ชมสีสันอาหาร ขนมหลากหลายซึ่งจัดแสดงจำลองบอกเล่าประวัติเอกลักษณ์ของชุมชนไว้อย่างครบพร้อม หรือถ้าชื่นชอบความสงบเที่ยววัดไหว้พระทำบุญก็มีหลากหลายสถานที่ ซึ่ง วัดอัมพวันเจติยาราม ถือเป็นหนึ่งในวัดที่อยู่ใกล้กับตลาดน้ำ ก่อนเดินเที่ยวลัดเลาะบ้านเรือน ร้านค้า อาจแวะเข้าไปไหว้พระ ชมความงามของสถาปัตยกรรมสมัยรัตนโกสินทร์ก็ได้ความสุขใจ อิ่มบุญไปตาม ๆ กัน

ไม่ไกลนัก ยังเป็นที่ตั้งของ อุทยาน ร.2 ที่สามารถเดินเที่ยวชมท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น โดยบริเวณนี้มีหมู่เรือนไทยทรงคุณค่า นอกจากนี้อาจแวะเข้าไปไหว้พระที่ วัดจุฬามณี อีกวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งคลองอัมพวา โดยด้านในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังงดงามทรงคุณค่าให้ศึกษาเที่ยวชม ซึ่งนอกจากการเที่ยววัดจะใช้เส้นทางรถยนต์ หลากหลายวัดสำคัญของที่นี่ยังนั่งเรือไปถึงได้ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งสีสันมนต์เสน่ห์เติมต่อประสบการณ์เที่ยวพักผ่อนในช่วงวันหยุดอย่างคุ้มค่าที่อัมพวา.

.....................

เล่าเรื่องเมืองอัมพวา

ในอดีต เมืองอัมพวาถือเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสงคราม มีตลาดน้ำขนาดใหญ่และชุมชนริมน้ำที่เป็นศูนย์กลางด้านพาณิชยกรรม แต่ผลกระทบของการพัฒนาการคมนาคมทางบก ทำให้ความเป็นศูนย์กลางฯ ของอัมพวาต้องสูญเสียไป ตลาดน้ำค่อย ๆ ลดความสำคัญและสูญหายไปในที่สุด ทิ้งไว้แต่ร่องรอยของความเจริญในอดีตซึ่งยังคงปรากฏให้เห็นชัดเจนในทุกวันนี้ ต่อมาทางเทศบาลตำบลอัมพวา โดยความร่วมมือร่วมใจของประชาชนในท้องถิ่น ได้ฟื้นฟูตลาดน้ำอัมพวาขึ้นมาอีกครั้งเพื่ออนุรักษ์ความเป็นอยู่ของชุมชนริมน้ำ ซึ่งในปัจจุบันหาดูได้ยาก ให้สืบทอดตลอดไป โดยใช้ชื่อว่า “ตลาดน้ำยามเย็น”

.....................

รู้ไว้ก่อนไปเที่ยว

ที่ตั้ง : ตลาดน้ำอัมพวา ตั้งอยู่ใกล้กับวัดอัมพวันเจติยาราม ในอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม

การเดินทาง : โดยรถยนต์ จากกรุงเทพฯ ขึ้นทางด่วนข้ามสะพานแขวนลงดาวคะนอง ใช้เส้นทางพระราม 2 ผ่านมหาชัย-นาเกลือเข้าทางหลวง 325 สมุทรสงคราม-บางแพ-อัมพวา มาทางแยกซ้ายเข้าไปทางที่เส้นทางไปอุทยาน ร.2 หรือเลือกใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 35 ถนนสายธนบุรี-ปากท่อ (พระราม 2) ผ่านสี่แยกมหาชัย-นาเกลือ ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 63 มีทางแยกต่างระดับเข้าตัวเมืองสมุทรสงคราม หรือใช้ทางพิเศษเฉลิมมหานคร

โดยรถโดยสารประจำทาง : จากสถานีขนส่งสายใต้ นั่งรถโดยสารประจำทาง กรุงเทพฯ-ราชบุรี-ดำเนินสะดวกมาลงที่ตลาดอัมพวา เป็นต้น

โดยรถไฟ : จากสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ มีรถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย ออกทุกวัน ลงรถไฟที่สถานีรถไฟมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ข้ามเรือจากท่ามหาชัยไปยังฝั่งท่าฉลอมต่อรถไฟที่สถานีรถไฟบ้านแหลมไปยังจังหวัดสมุทรสงครามหรือจะลงรถไฟที่สถานีรถไฟมหาชัยแล้วต่อรถโดยสารประจำทางไปยังจังหวัดสมุทรสงคราม

ฤดูท่องเที่ยว : สีสันตลาดน้ำที่นี่เลือกเพลิดเพลินบรรยากาศได้ทุกฤดูกาล โดยตลาดน้ำอัมพวามีขึ้นในช่วงเย็นวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์

ของฝาก : ขนมหวาน และผลไม้หลายหลากชนิด

...................
ที่มาทีมวาไรตี้ เดลินิวส์