วิธีฝึกให้คิดบวกและประโยชน์ของการคิดบวก

วิธีฝึกให้คิดบวกและประโยชน์ของการคิดบวก
การคิดบวกก็คือการคิดและมองโลกในแง่ดี หรือการคิดตรงข้ามกับคิดลบนั้นเอง
การคิดลบชีวิตก็มีและลบ แค่คุณคิดลบคุณก็ขาดทุนชีวิตแล้ว คิดแต่ในแง่ร้ายคิดแต่เรื่องเลวร้าย
เมื่อความคิดมีแต่เรื่องเลวร้าย ชีวิตนี้ก็จะเจอแต่เรื่องเลวร้าย เพราะในใจและความคิดมีแต่เรื่องที่เลวร้าย
มีแต่ความทุกข์ตลอดเวลา ขาดความสงบ ขาดสมาธิ ขาดสติ มีแต่เรื่องที่ขาดทั้งนั้น ที่สำคัญจะทำให้ขาดทุนชีวิต
อย่าให้ความสำคัญกับความคิดด้านลบ จะจงให้ความสำคัญกับความคิดด้านบวก
การคิดบวกก็คือคิดให้มากขึ้นคิดให้บวก มองโลกในแง่ดี มองด้านดีในข้อเสียต่างๆ ทุกอย่างรล้วนมี 2 ด้าน
อยู่ที่เราจะมองด้านใด มองในแง่ลบจิตรใจก็มีแต่เรื่องด้านลบ มองในด้านบวก จิตรใจก็มีแต่ในด้านบวก
เช่น น้ำในแก้วมีอยู่ครึ่งแก้ว
ถ้ามองในแง่ลบก็คือ มองว่าน้ำเหลืออยู่แค่ครึ่งแก้วเอง เมื่อคิดเช่นนี้แล้วก็จะเกิดการเห็นแก่ตัวเป็นความทุกข์เกิด
ถ้ามองโลกในแง่บวกก็คือ น้ำยังเหลืออีกต้องครึ่งแก้ว เมื่อคิดว่ายังเหลืออีกต้องครึ่งใจก็ไม่ทุกข์เมื่อไม่ทุกข์มันก็เกิดสุข
เป็นเรื่องสัจธรรม หรือเป็นเรื่องธรรมดานั้นเอง
ชีวิตคนเราจะสุขหรือทุกข์ก็อยู่ที่มุมที่เรามองนั้นเอง ไม่เกี่ยวกับความรวยหรือจน
บ้างคนรวยมหาศาลก็ยังรู้สึกว่าขาดอยู่(มองโลกในแง่ร้ายหรือคิดลบนั้นเอง)จึงต้องหาวิธีที่จะเห็นแก่ตัวเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์อยู่ร่ำไป
บ้างคนแค่พอมีกินมีใช้ไม่ขัดสนก็รู้สึกพอใจในสิ่งที่มีอยู่(แม้คนรวยจะมองคนประเภทนี้ว่าโครตจนเลยก็เถอะ)เมื่อพอใจแล้วก็ไม่จน
ไม่เห็นแก่ตัวความทุกข์ก็ไม่เกิด และสิ่งที่ตามมาก็คือความสุข เมื่อมีความสุขผู้คนก็อยากที่จะเข้าใกล้ เพราะความสุขเป็นเหมือนโรคชนิดหนึ่งที่ติดต่อกันได้ เมื่ออยู่ไกล้ๆคนที่มีความสุขแล้วเราก็จะมีความสุขไปด้วย ความทุกข์ก็เช่นกันเป็นเหมือนโรดติดต่อเหมือนกัน

เมื่อเข้าไกล้คนที่มีแต่ความทุกข์แน่นอนใจเราก็จะทุกข์ไปด้วย พูดคุยกันก็มีแต่เรื่องที่ทำให้มีแต่ความทุกข์ ดังนั้นท่านจะมีความสุขหรือความทุกข์ท่านก็เลือกเองละกันว่าอยากจะทุกข์หรืออยากจะสุข อยู่ที่มุมมอง และความคิดของท่านเอง ว่าจะคิดลบหรือคิดบวก