ฟังกูรูแนะเทคนิคเลือกซื้อ "แบบฝึกหัด" ให้ลูกวัยอนุบาล

ฟังกูรูแนะเทคนิคเลือกซื้อ "แบบฝึกหัด" ให้ลูกวัยอนุบาล แม้หนังสือจะมีหน้าที่เปรียบเสมือนเป็นเครื่องมือ หรือตัวช่วยในการเรียนรู้ของเด็ก[ผศ.ดร.ธัญสุตา จิรกิตตยากร]แต่ปัจจุบัน นอกจากหนังสือเแบบเรียนอย่างเดียวคงไม่พอ ทำให้พ่อแม่หลายบ้าน เลือกที่จะซื้อหนังสือเสริมประสบการณ์ให้ลูกทบทวนเพิ่มเติม แต่ปัญหาอยู่ที่ตามท้องตลาดมีหนังสือเด็กประเภทนี้จำนวนมาก จนไม่สามารถแยกความแตกต่างได้ว่า จะเลือกซื้ออย่างไรดี ???

ดังนั้นก่อนที่จะใช้วิธีการลองผิดลองถูกเลือกหยิบหนังสือประเภทนี้มาให้ลูกเรียนรู้ ทีมงาน Life and Family มีคำแนะนำ จากผู้เชี่ยวชาญมาแนะวิธีการเลือกสรรหนังสือ และแบบฝึกหัดให้กับลูกวัยอนุบาลที่ถูกต้องกัน

ในเรื่องนี้ "ผศ.ดร.ธัญสุตา จิรกิตตยากร" ในฐานะคณะกรรมการร่างหลักสูตรหัวหน้างานศูนย์พัฒนาศักยภาพผู้เรียน โรงเรียนสาธิต มศว. ประสานมิตร (ฝ่ายประถม) แนะว่า หลักการเลือกหนังสือและสื่อการเรียนรู้ให้กับลูกวัยอนุบาล เพื่อการเรียนรู้ อย่างสัมฤทธิ์ผล มีดังนี้

1. เริ่มจากสังเกตุด้วยตาก่อนว่า รูปภาพและภาพประกอบต่างๆ ต้องเหมาะกับเด็กอนุบาล คือมีความเป็นธรรมชาติ สามารถช่วยเสริมจินตนาการของเด็กได้ เช่นเป็นรูปร่างหน้าดูอ่อนหวาน ดูไม่ดุ ดูแล้วมีความสุข และไม่ใช่ภาพวาดที่เป็นแฟชั่น

โดยหลักสำคัญที่ควรรู้คือ สื่อการเรียนการสอนที่ดีควรต้องมีความใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด เพื่อให้เด็กสามารถจินตนา ได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด รวมทั้งมีความสุขในการเรียนรู้ ส่วนสื่อที่ผิดเพี้ยน ไม่เป็นธรรมชาติ ไม่ควรใช้เด็ดขาด

2. เปิดดูแต่ละหน้า ควรระบุวัตถุประสงค์การเรียนรู้ให้ทราบ และด้านล่างมีคำสั่งประกอบ ถ้าเด็กอ่านแล้วไม่เข้าใจ ผู้ปกครองสามารถเสริมให้กับเด็กได้ เพราะการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างพ่อ แม่ ลูกเป็นการเสริมสร้างปฎิสัมพันธ์ที่ดีของครอบครัว

3. แบบฝึกหัดภายในเล่ม ควรเลือกจำนวนที่เหมาะสมและสอดคล้องกับพัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก คือไม่ควรเยอะเกินไป เพราะทำให้เกิดความเบื่อหน่ายกับเด็กต่อการเรียนรู้ พ่อแม่ สามารถใช้วิธีพูดคุยร่วมกันกับลูก และให้ทำแบบฝึกไม่ต้องมาก แต่ได้ ทำอย่างมีความสุข
[หนังสือเสริมประสบการณ์แบบต่างๆ ]
นอกจากหลักการเลือกซื้อหนังสือ หรือแบบฝึกหัดสำหรับลูกวัยอนุบาลอย่างถูกต้องแล้ว ผศ.ดร. ธัญสุตา เน้นย้ำว่า วิธีการ ใช้หนังสือไม่ว่าจะเตรียมความพร้อม หรือเสริมสร้างประสบการณ์ สิ่งสำคัญคือการดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งพ่อแม่ ผู้ปกครองและครูผู้สอน ซึ่งควรสอนลูกอย่างใกล้ระหว่างการทำแบบฝึกหัด หรือเรียนรู้เรื่องต่างๆ ภายในหนังสือ และยิ่งถ้ามีอุปกรณ์เสริมการเรียนรู้เข้ามา ประกอบด้วยยิ่งเป็นการดี เพราะนอกจากทำให้เด็กสนุกสนาน ตื่นเต้นกับการเรียนรู้ในเรื่องนั้นๆ ยังทำให้เด็กได้สัมผัสกับของจริง ประสบการณ์จริง ซึ่งจะทำให้การเรียนรู้นั้นสัมฤทธิ์ผลอย่างดีเยี่ยม

อย่างไรก็ดี ข้อควรระวัง คือ การเรียนรู้ของเด็กในวัยนี้ ควรเรียนรู้ แบบ 1วัน 1 วัตถุประสงค์เท่านั้น เพราะหนังสือเตรียม ความพร้อมและเสริมสร้างประสงค์ของเด็กอนุบาล ไม่ใช่หนังสือที่เป็นแบบเรียน ที่มีไว้เพื่อฆ่าเวลา การพูดคุยกับลูกเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะทำให้รู้ว่าแต่ละวันลูกเป็นอย่างไร คิดอะไร สิ่งที่เราเพิ่มเติมให้น่าจะเป็นอะไรบ้าง นอกจากนี้ยังควรสื่อสารกับโรงเรียนเพื่อ ให้การเรียนมีความสอดคล้องกัน

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์