ผัก-ผลไม้หลากชนิดปั่นดื่มบำรุงสายตา

ผัก-ผลไม้หลากชนิดปั่นดื่มบำรุงสายตา
แม้จะมีส่วนผสมให้ต้องเตรียมมากถึง 17 ชนิด โปรดอย่าถอดใจ เพราะส่วนผสมทั้งหมดนั้นเมื่อนำมาปั่นผสมกันแล้วเสมือนเป็นการเติมสารอาหารที่มีคุณประโยชน์มากมายสู่ร่างกาย
โดยจะขอยกตัวอย่างสรรพคุณของส่วนผสมบางชนิด อย่าง เมล็ดแฟลกซ์ แหล่งรวมของกรดไขมันที่จำเป็นอย่าง โอเมกา 3 สารอาหารบำรุงสมอง ทั้งยังเสริมสร้างการทำงานของหัวใจ ลดระดับคอเลสเตอรอล เพิ่มความแข็งแกร่งของภูมิคุ้มกันร่างกาย

ส่วน แครอต อุดมไปด้วยสารอัลฟาและเบตาแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระตัวการก่อมะเร็งร้าย แถมยังช่วยเสริมการทำงานของหัวใจ และระบบทางเดินหายใจให้มีประสิทธิภาพ และ บีตรูต เปี่ยมไปด้วยวิตามินบี1 บี2 และบี6 กรดโฟลิก แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม และสังกะสี ช่วยทำความสะอาดตับและลำไส้ส่วนล่าง ขับสารพิษ ฟอกเลือดและไต เพิ่มออกซิเจนให้กับเซลล์ได้มากถึง 400% สำหรับคุณผู้หญิงการรับประทานบีตรูตจะช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ

เครื่องดื่มแก้วนี้มีส่วนผสมที่จะต้องเตรียมตามสัดส่วนดังต่อไปนี้...

หัวบีตรูตขนาดกลาง 1 หัว
แครอต 2 หัว
ผักปวยเล้ง 1 ต้น
ข้าวโพด 1 ฝัก
มะเขือเทศ 2 ลูก
บลูเบอรี่ 1 ถ้วย
กีวี 2 ผล
องุ่นดำชนิดมีเมล็ด 2 ถ้วยครึ่ง
น้ำกลั่น 2 ถ้วยครึ่ง
เกลือทะเล 1 ช้อนชา
ผงขมิ้น 1 ช้อนชา
เกสรผึ้ง 2 ช้อนชา
เก๋ากี้ 3 ช้อนโต๊ะ
เมล็ดแฟลกซ์ 2 ช้อนชา
งาดำ 4 ช้อนชา
เมล็ดฟักทอง 1 ช้อนชา
เลซิทิน 2 ช้อนชา



ขั้นตอนการปรุงดื่ม เริ่มจากการล้างส่วนผสมทั้งหมดให้สะอาด หั่นแครอตและมะเขือเทศเป็นชิ้น ส่วนข้าวโพดฝานเอาแต่เมล็ด ส่วนกีวีต้องปอกเปลือกก่อนหั่นเป็นชิ้น สำหรับบีตรูตต้องล้างให้หมดดิน กรณีที่ส่วนใดล้างดินไม่หมดให้ใช้มีดฝานออก จากนั้นเทน้ำกลั่นลงไปในโถปั่นใส่ผัก ผลไม้และส่วนผสมทุกชนิดลงปั่นพร้อมกันยกเว้นเลซิทิน ที่ให้เติมลงไปหลังจากส่วนผสมทุกอย่างถูกปั่นเป็นน้ำ เมื่อเติมเลซิทินแล้วให้ปั่นต่อไปอีก 10 วินาที ก็จะได้เครื่องดื่มบำรุงสายตาราว 6-7 แก้ว เฉลี่ยแบ่งให้ได้แก้วละ 250 ซีซี ควรดื่มให้หมดภายในวันเดียว ถ้าจะให้ดีผักและผลไม้ที่จะนำมาปรุงดื่มควรเป็นผักอินทรีย์ปลอดสารเคมี

อย่างไรก็ตาม ดร.อู๋ แนะนำให้เลือกใช้เครื่องปั่นที่มีความแรง 3.5 แรงม้า ขณะดื่มให้เคี้ยวกากน้ำผักและผลไม้ช้า ๆ 10 ครั้งก่อนกลืน ควรดื่มก่อนมื้ออาหาร 1 ชั่วโมง

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากหนังสือ ธรรมชาติช่วยชีวิต 100 คำถามเจาะลึกเพื่อสุขภาพ

takecareDD


ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์