คอลัมน์ : World Wide Wheel
บายไลน์ : ตะวันอ้อมข้าว
sun2rice@gmail.com
วาเลนไทน์นี้นอกจากดอกกุหลาบหรือช็อกโกแลตแล้ว ตุ๊กตาบลายธ์ ยังได้รับการคาดหมายจากหลายเว็บไซต์ว่าจะเป็นของขวัญที่หนุ่มๆ กะจะให้เซอร์ไพรส์หวานใจด้วย โดยเฉพาะที่โตเกียว จากสถิติปีที่ผ่านมาแค่วันที่ 14 กุมภาพันธ์วันเดียว ร้านค้าทั่วนครโตเกียวจำหน่ายบลายธ์ไปราว 2,000 ตัวทีเดียว

ย้อนกลับไปในปี 1972 ตุ๊กตารุ่นหนึ่งถูกผลิตขึ้นที่โรงงานของบริษัท Kenner สหรัฐอเมริกา โดยดีไซเนอร์ชื่อว่า "แอลลิสัน แคตซ์แมน" (Allison Katzman) เธอได้หยิกเอาเค้าโครงภาพวาดเด็กผู้หญิงตาโต ของจิตรกรอเมริกันนามว่า "มาร์กาเร็ต คีนน์" (Margaret Keane) มาเป็นต้นแบบ ถ้าใครได้เห็นงานเพนติ้งของมาร์กาเร็ต แล้วจะร้องอ๋อทันที จุดแข็งและจุดขายของตุ๊กตาชนิดนี้ในยุคแรกเริ่ม คือ หัวโตตัวเล็ก มีดวงตากลมโตที่ขยับเปลี่ยนสีได้ 4 สี คือ เขียว ชมพู ส้ม น้ำเงิน (สีสันเหมือนคอนแทกต์เลนส์) ผู้เล่นเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับตุ๊กตาได้ 12 ชุด การวางขายครั้งแรกเมื่อ 38 ปีก่อน มีให้เลือก 4 ชื่อ คือ Karess, Willow, Skye และ Blythe

จนกระทั่งปี 1997 สาวนิวยอร์กชื่อว่า "จีน่า กาแรน" (Gina Garan) เกิดเบื่อๆ เปิดเข้าไปประมูล Vintage Doll ตัวหนึ่งมาได้จาก ebay ในราคา 15 เหรียญ เธอถามเพื่อนๆ ว่ารู้จักตุ๊กตาหัวโตตัวนี้มั้ย? ก็ไม่มีใครพยักหน้าด้วย จีน่าเริ่มพาตุ๊กตา "Blythe" ไปไหนมาไหนด้วย ความที่ชีเป็นช่างภาพ จีน่าเกิดไอเดียบรรเจิด ค่อยๆ ถ่ายรูปตุ๊กตาของเธอเสมือนเป็นนางแบบกับสถานที่ต่างๆ เวลาผ่านไป 3 ปี จีน่ามีภาพไว้หลายพันใบ เธอเลือกภาพส่วนหนึ่งไปตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ Chronicle Books ใช้ชื่อว่า "This is Blythe" ปรากฏว่าในปี 2001 หนังสือภาพเล่มนี้กลายเป็น Best Seller ทั่วโลก ขายได้มากกว่า 100,000 เล่ม ซะงั้น!!!

วันแรกที่บริษัททาคาระ (Takara) ซื้อลิขสิทธิ์ตุ๊กตาบลายธ์เพื่อมาผลิต รุ่น PARCO Limited, June 2001 จำนวน 1,000 ตัว ก็ขายหมดเกลี้ยงไม่ถึง 1 ชั่วโมง ทุกคอลเลกชั่นของ Neo Blythe หลังจากนั้นก็ได้รับความนิยมเรื่อยมา ถึงขั้นว่าในอเมริกา ผู้ที่มีตุ๊กตาบลายธ์รุ่นบุกเบิกสมัยที่ผลิตโดยบริษัท Kenner ได้นำตุ๊กตาที่ยังมีชื่อติดว่า Karess, Willow, Skye มาเปิดประตูใน ebay ก็ทำราคาได้สูงสะใจ ถึงตัวละ 3,500 เหรียญ หรือ 1.22 แสนบาท จนถึงวันนี้ตุ๊กตาบลายธ์ที่เคยหน้าแปลกและแปลกหน้าได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของ Pop Culture การกลับมาลงตลาดครั้งที่ 2 เพียง 8 ปีเศษ ตุ๊กตาบลายธ์ก็ทำรายได้มหาศาลชนิดที่เจ๊ใหญ่อย่างบาร์บี้ยังแอบมองค้อน
นอกจากนี้ บลายธ์ยังขึ้นชื่อเป็นตุ๊กตาตัวแม่ที่ขยันออกรุ่น Limited Edition ให้ตามเก็บ เช่น ในปี 2007 มีรุ่น "Princess a la mode" ทำมา 2,007 ตัวในโลก หมดแล้วหมดเลย ราคาในเน็ตวันนี้แบบขายยกกล่องก็อยู่ที่ประมาณ 50,000 บาท และมีทีท่าว่าจะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ เสียด้วย!!!
กุมภาพันธ์นี้คงมีหนุ่มๆ หมดตัวเพราะน้องบลายธ์กันหลายคน
ที่มา โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์/http://www.manager.co.th/mgrweekly/viewnews.aspx?newsID=9530000019611