รู้ทันพัฒนาการของลูกรัก/ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ

รู้ทันพัฒนาการของลูกรัก/ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ
สิ่งหนึ่งที่สำคัญซึ่งคนเป็นพ่อเป็นแม่ทุกคนควรรู้ก็คือ การรู้พัฒนาการที่แตกต่างกันของเด็กในแต่ละวัย เพราะจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญของความเข้าใจในการอบรมเลี้ยงดูลูกรักของเราให้เติบโตขึ้นเป็นคนที่มีพัฒนาการทุกด้านที่ดีสมวัย ซึ่งช่วงอายุที่สำคัญของพัฒนาการเด็กนั้นมีอยู่ 6 ช่วงดังนี้
ช่วงวัยทารกที่อยู่ในครรภ์

ช่วงวัยนี้อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดของเขาจะผูกพันกับคุณแม่มาก โดยเด็กสามารถที่จะรับรู้ถึงการที่แม่พูดกับเขาได้ตั้งแต่เขาอายุ 5 เดือนในครรภ์ อีกทั้งเด็กสามารถรับรู้ถึงเสียงเต้นของหัวใจแม่และสามารถรับสัมผัสเมื่อแม่เอามือลูบท้องด้วยแรงสั่นสะเทือนของน้ำคร่ำอีกด้วย

ช่วงขวบปีแรก

ในช่วงวัยนี้เด็กเริ่มเรียนรู้จากการใช้สายตาในการสังเกตและการมองดูสิ่งต่าง ๆ รอบตัว อีกทั้งเป็นวัยเริ่มต้นของการใช้ประสาทสัมผัสในเรื่องของการหยิบจับ การได้ยิน การดมกลิ่นและการชิมรส นอกจากนี้เด็กในวัยนี้ยังเริ่มเรียนรู้ถึงการจดจำเสียงของแม่หรือคนเลี้ยงได้แล้ว เช่น เด็กจะส่งเสียงอ้อแอ้เมื่อได้ยินเสียงของแม่

ช่วงวัยเตาะแตะ (1-2 ขวบ)
ในช่วงวัยนี้เด็กจะมีการเคลื่อนไหวร่างกายมากขึ้น ในการคลาน ยืน เดิน อีกทั้งเริ่มมีพัฒนาการทางด้านภาษาโดยพูดคำง่ายๆได้ เช่น “แม่” “หม่ำ” นอกจากนี้เด็กในช่วงวัยนี้จะเริ่มสนใจในสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยชอบทดลองหยิบจับสิ่งของต่าง ๆ มาเขย่า โยนหรือบางทีก็หยิบเอาเข้าปากด้วย ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องคอยดูแลระมัดระวังเด็กในวัยนี้อย่างใกล้ชิดไม่ให้เด็กหยิบจับสิ่งของเข้าปากและไม่ให้เด็กสัมผัสกับสิ่งที่มีคมและเป็นอันตรายต่างๆ

ช่วงวัยอนุบาล (3-6 ขวบ)

ในช่วงวัยนี้เด็กจะมีพัฒนาการทางด้านภาษามากขึ้น โดยเด็กจะสามารถพูดเป็นประโยคได้ เริ่มซักถาม อยากรู้อยากเห็น เริ่มมีจินตนาการจากสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ดังนั้นในวัยนี้จึงเป็นวัยที่สามารถส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการได้ดีที่สุด โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการของเด็กได้อย่างง่าย ๆ โดยผ่านทางการพูดคุย การเล่านิทาน กิจกรรมดนตรี กิจกรรมศิลปะ และการพาลูกไปสัมผัสกับประสบการณ์ของโลกกว้างจากการพาลูกไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ
ช่วงวัยประถมศึกษา (7-12 ขวบ)

ในช่วงวัยนี้เป็นวัยเริ่มต้นที่จะเข้าสู่วัยรุ่น ในช่วงวัยนี้ถือเป็นวัยที่สามารถปลูกฝังทางด้านจริยธรรม คุณธรรมและกฎเกณฑ์ทางสังคมได้มากขึ้น โดยที่เด็กจะมีพัฒนาการทางสังคมในการมีกลุ่มเพื่อนและให้ความสำคัญในการคบเพื่อน ในเด็กช่วงวัยอายุประมาณ10-12ปีเป็นวัยที่เด็กเริ่มมีฮีโร่ในใจ เช่น ดารา นักร้อง นักกีฬา หลายคนอาจจะแต่งตัวและแสดงออกเลียนแบบดาราหรือคนที่เขาชื่นชม ซึ่งพฤติกรรมนี้ถ้าไม่ได้แสดงออกในทางที่เสียหาย คุณพ่อคุณแม่ก็ควรเข้าใจและไม่แสดงอาการด่าว่าต่อต้าน เพราะวัยนี้เป็นช่วงวัยที่เด็กกำลังค้นหาบุคลิกภาพและความเป็นตันตนของเขา ซึ่งพฤติกรรมการเลียนแบบนี้เป็นพฤติกรรมตามแฟชั่นที่เป็นไปตามวัยที่สักพักเด็กก็จะเลิกไปเอง

ช่วงวัยรุ่น (13-17 ปี)

ในช่วงวัยนี้เป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตเลยทีเดียว เพราะเป็นวัยที่เด็กเริ่มก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่วัยนี้เป็นวัยของการพัฒนาทางด้านความคิด และความเป็นตัวของตัวเอง หลายคนเริ่มค้นหาเอกลักษณ์ของตนเอง เริ่มสนใจเพศตรงข้ามและเริ่มมีมุมส่วนตัวที่ไม่อยากให้คนอื่นเข้ามาก้าวก่าย ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องมีความเข้าใจอีกทั้งเปิดรับความคิดของลูกในวัยนี้ด้วย โดยปล่อยให้ลูกได้เป็นตัวของตัวเองแต่ในขณะเดียวกันก็ต้องคอยดูแลเอาใจใส่ ไม่ให้ลูกรู้สึกว่าคุณพ่อคุณแม่ห่างเหิน เพื่อที่เวลาลูกมีปัญหาสิ่งใดก็จะได้กล้าเข้าไปขอคำปรึกษาจากคุณพ่อคุณแม่ได้ ทำดังนี้แล้วลูกจะได้ก้าวเดินในทางชีวิตที่ถูกต้องไม่ออกนอกลู่นอกทาง

ผู้เขียนเชื่อว่าการที่คุณพ่อคุณแม่รู้ทันพัฒนาการของลูกในแต่ละวัยนั้น จะเป็นประโยชน์ในการอบรมและปลูกฝังให้ลูกรักของเราเติบโตขึ้นเป็นคนที่มีพัฒนาการทุกด้านที่ดีสมวัย มีความสุขและเข้าใจตนเอง อีกทั้งสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์