ไอเดียแปลก ลุงแดงของเก่า ขายได้ไม่มีหมด

ไอเดียแปลก

สุจิต เมืองสุข

ลุงแดงของเก่า ขายได้ไม่มีหมด

"คนที่อยากทำธุรกิจค้าของเก่าให้ประสบความสำเร็จ หรือยึดถือเป็นอาชีพหลัก เฉกเช่น คุณสำรี ในฐานะลุงแดงของเก่า หรือแดงของถูก คุณสำรี บอกว่า ใจรักในของเก่าเท่านั้นที่สำคัญ ส่วนเงินซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญของการทำธุรกิจ แต่จำเป็นต้องมี ตรงนี้คุณสำรีแนะว่า เงินทุนเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอสำหรับผู้ไขว่คว้า ไม่จำเป็นจะต้องมีเงินสูงสำหรับคนเล่นของเก่าเสมอไป เพราะของเก่าซื้อมาขายไปในราคาที่บางครั้งเราอาจนึกไม่ถึง"

ไม่ต้องแปลกใจกับคำว่า ของเก่าขายได้ไม่มีหมด เพราะข้อเท็จจริง คือ ของเก่าเป็นของหายาก ดังนั้น เมื่อนำมาขายย่อมขายดีและขายได้ ส่วนคำว่า ไม่มีหมด ได้มาจากคำบอกเล่าของคุณสำรี พึ่งย้อย ชายวัยกลางคนที่เริ่มสะสมของเก่าด้วยความชอบส่วนตัว แต่ปัจจุบันพลิกผันความชอบให้เป็นอาชีพที่ทำรายได้เลี้ยงครอบครัวได้อย่างปกติสุข แต่ถึงอย่างไรคำว่า "ของเก่า" ของคุณสำรี ต้องหมายถึงของเก่าจริงๆ ในลักษณะของการเก่าเก็บ แบบเดียวกับเก่าสะสม หรือเก่าอย่างมีคุณภาพเพราะคงเหลืออยู่เพียงน้อยชิ้น ไม่ใช่การทำขึ้นใหม่โดยเลียนแบบของเก่าที่เคยมีอยู่

ชื่อ "ลุงแดงของเก่า" เป็นที่รู้จักกันในวงนักค้าของเก่า และนักสะสมของเก่า เป็นอย่างดี เพราะชีวิตที่คร่ำหวอดในวงการของเก่า นับแต่ยังไม่เริ่มชีวิตพ่อค้าแค่ไต่เต้าจากนักสะสมเก็บเล็กเก็บน้อยตามประสาความชอบ จวบจนปัจจุบันนานเกือบ 20 ปี ไม่นับก่อนหน้านั้นที่คุณสำรีเป็นที่รู้จักในหมู่พ่อค้าแม่ค้าย่านคลองถม ตลาดกลางคืน ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าและมือสอง ซึ่งหากนับรวมก็นานราว 30 ปีเห็นจะได้ ผนวกประสบการณ์ด้านของเก่าแล้วถือว่า คุณสำรี ไม่เป็นรองใคร



ซื้อสะสมของชิ้นเล็ก

จุดประกายนักค้าของเก่า

การพูดคุยกับคุณสำรี เริ่มต้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย เพราะเป็นการพบกันโดยบังเอิญจากการจัดบู๊ธขายของขนาดพื้นที่จำกัดเพียง 15 ตารางเมตร ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แต่จุดเด่นของสินค้าภายในร้านสะกดสายตาของผู้ผ่านให้แวะเวียนเข้าไปชม เพราะเป็นสินค้าที่ไม่ได้เห็นมานมนาน จึงอดไม่ได้ที่จะเข้าไปสอบถามถึงที่มาที่ไปของสินค้าเหล่านั้น ซึ่งได้รับคำตอบจากคุณสำรี เจ้าของร้านอย่างออกอรรถรสไม่ใช่ตอบเพราะกลัวเสียมารยาท ทำให้การพูดคุยเป็นไปอย่างราบรื่น

คุณสำรี อธิบายถึงการจัดร้านที่ดูสวยงามและเป็นระเบียบ แม้ว่าจะเป็นการนำของเก่ามาวางขายว่า เป็นเพียงการจัดร้านเฉพาะงานเท่านั้น และของเก่าที่นำมาวางขายเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของของเก่าที่มีอยู่ทั้งหมดที่บ้าน แต่เพราะสถานที่ไม่อำนวยจึงนำมาตั้งวางได้เพียงเท่านี้ หากต้องการชมของเก่าทั้งหมดที่สะสมไว้เพื่อความสุขส่วนตัวและเพื่อขายเป็นรายได้ คงต้องเดินทางไปบ้านซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลสำโรงใต้ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ตรงนั้นเก็บไว้จำนวนนับชิ้นไม่ได้เลยทีเดียว

จากการสังเกตระหว่างการพูดคุย พบว่าของเก่าแต่ละชิ้นห่างหายจากสายตาไปนานนับสิบปี บางชิ้นเห็นครั้งล่าสุดไม่ต่ำกว่า 20 ปีเห็นจะได้ คุณสำรี บอกเล่าถึงที่มาที่ไปกว่าจะมาเป็น "ย้อนอดีต 2482 ปู่แดง" ชื่อที่เพิ่งตั้งขึ้นเพื่อหวังว่าจะแทน "ลุงแดงของเก่า" ได้ โดยคุณสำรี เล่าให้ฟังว่า อาชีพเดิมเริ่มจากคนขายเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสองและตามตลาดมืด หรือตลาดคลองถมธรรมดาคนหนึ่ง แต่เพราะความช่างสังเกตเห็นว่า แค่ก้านไม้ขีดเก่ายังดูสวยงามน่าสะสม ยิ่งหากมีหลายชิ้นนำมารวมกันจะยิ่งทำให้ดูมีราคาและมีค่าอย่างยิ่งยวด จึงเริ่มลองซื้อและเก็บเล็กเก็บน้อยตามประสาเงินในกระเป๋าที่พึงมี ต่อเมื่อของชิ้นเล็กนอกเหนือจากก้านไม้ขีด คุณสำรีก็เริ่มซื้อเก็บและสะสมรวมไปด้วยทำให้ของเล็กเพิ่มจำนวนมากขึ้น วางกองกินพื้นที่เหมือนของชิ้นใหญ่ คุณสำรีจึงตัดสินใจซื้อตู้โชห่วยลองจัดวางของชิ้นเล็กที่ซื้อเก็บก่อนหน้า พบว่า เกิดความสวยงามสะดุดตาทีเดียว

นอกเหนือจากก้านไม้ขีด คุณสำรีไม่เลือกว่าจะสะสมอะไรเป็นพิเศษ เพราะทุกชิ้นที่เป็นของเก่าไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ คุณสำรีจะสำรวจเงินในกระเป๋าหากพบว่ามีกำลังพอซื้อได้จะซื้อทันที ต่อเมื่อหลายชิ้นเข้ากลายเป็นที่รู้กันว่า คุณสำรี หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าลุงแดง เป็นเป้าสำคัญที่มีของเก่าหลายชิ้นสะสมและเป็นที่ตามหาของบรรดานักสะสมของเก่าอยู่ ซึ่งเป็นที่มาของการตามไปถึงบ้านคุณสำรี เพื่อขอซื้อไปสะสม และเมื่อนักสะสมขอซื้อจำนวนมากขึ้น คุณสำรีเองเริ่มระลึกได้ว่า ไม่ควรนิ่งอยู่กับที่หรือรอให้พบของเก่าตรงหน้า แต่ควรเริ่มเดินหน้าออกหาของเก่า เพื่อซื้อมาสะสมไว้ และหากมากพอจะนำออกขายเป็นรายได้เลี้ยงชีพด้วย



ตระเวนโชห่วยต่างจังหวัด

รับซื้อเหมาและปลีก

ได้ของดีไม่เหมือนใคร

แล้วชีวิตพ่อค้าของเก่าก็เริ่มขึ้น คุณสำรีเริ่มออกตระเวนซื้อของเก่ามาสะสมอย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยเลิกอาชีพขายเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสองที่ตลาดคลองถมไปโดยสิ้นเชิง เพราะเมื่อเปรียบเทียบรายได้แล้ว การขายของเก่าที่สะสมไว้ดูเหมือนจะเป็นรายได้หลักมากกว่า คุณสำรีจึงผันชีวิตตนเองเริ่มจากการขับรถตระเวนออกหาซื้อของเก่า โดยเน้นไปที่ของโชห่วยเพราะเห็นว่าสินค้าอุปโภคบริโภคเหล่านั้นไม่มีผลิตขึ้นใหม่ หรือลอกเลียนแบบให้เหมือนได้อย่างแน่นอน

คุณสำรี เล่าว่า ทุกครั้งที่ออกตระเวนซื้อของเก่า จะวางแผนซื้อโดยขับรถไปตามจังหวัดต่างๆ ที่กำหนดไว้คร่าวๆ เช่น อีสานจะวางแผนว่าเดินทาง 3 จังหวัดใกล้เคียง เช่น สุรินทร์ บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ โดยขับตระเวนดูตามอำเภอต่างๆ ของจังหวัดให้ครบ ขาดไม่ได้คือร้านโชห่วยในเมือง ซึ่งถือเป็นแหล่งโชห่วยของเก่าเก็บที่ดีอย่างยิ่ง นอกจากนี้ จังหวัดที่มีห้างค้าปลีกเข้าไปตั้งต้องเป็นที่แน่นอนว่า ร้านโชห่วยเกือบทุกร้านต้องปิดตัวลง และสินค้าภายในร้านย่อมถูกดองไว้จนเป็นของเก่าเก็บไป

ในการเดินทางไปตระเวนซื้อของแต่ละครั้ง คุณสำรี จะถือเงินสดไปไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท ขับรถกระบะตระเวนไปตามเส้นทางที่เตรียมไว้ เมื่อพบร้านโชห่วยที่ปิดตัวลงหรือยังขายอยู่ จะเจรจาขอซื้อของที่มี หากของหมด เป้าหมายต่อไปคือ ตู้โชห่วย ซึ่งเป็นชิ้นที่มีมูลค่ามากพอสมควร

"บางทีต้องอาศัยใจกล้าเข้าไปถาม บอกถึงเหตุผลที่เรามาขอซื้อ เอาไปสะสม เอาไปจัดนิทรรศการเพื่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้เรียนรู้ บางรายเจ้าของไม่อยู่ทิ้งเบอร์ไว้ เมื่อเขาโทรศัพท์กลับมาเราก็ไปซื้อของตามที่พูดคุยกัน ส่วนราคาแล้วแต่เจ้าของร้านจะเสนอมา ส่วนใหญ่จะขายเหมา หรือบางรายยกให้ฟรีเลยก็มี"

หลังการซื้อแต่ละครั้ง ใช้เวลาตระเวนราว 4-5 วัน เดือนละ 4-5 ครั้ง เมื่อกลับถึงกรุงเทพฯ คุณสำรีจะนำของเก่าที่ซื้อมาได้ไปเก็บไว้ที่บ้าน ซึ่งคุณสำรีไม่เรียกว่า ร้าน เนื่องจากลูกค้าที่มาซื้อส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้าขายส่ง มีขายปลีกเป็นส่วนน้อย และจำนวนหนึ่งที่เปิดเป็นร้านใหญ่และจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ผนวกกับนิทรรศการให้ความรู้ในแหล่งชุมชนนั้นๆ เช่น เพลินวาน สถานที่ท่องเที่ยวย้อนยุคย่านหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก็มาซื้อสินค้าจากคุณสำรีเช่นกัน

สนนราคาการขายคุณสำรีไม่กำหนดตายตัวว่า ของประเภทใดราคาเท่าไหร่ ขึ้นกับการซื้อ โดยส่วนใหญ่เป็นการซื้อแบบยกโหล ทำให้ราคาขายของคุณสำรีถูกกว่าแหล่งซื้ออื่นจนลูกค้าบางคนเรียกว่า "แดงของถูก" เช่น ช้อนสังกะสี ขายราคาคันละ 30 บาท กระติกเก็บความร้อนยุคอาภัสรา หงสกุล เป็นนางงามจักรวาล ราคาเพียง 3,000 บาท กระจกขาตั้งเล็ก ชิ้นละ 40 บาท ยาสีฟันขึ้นกับยี่ห้อ ราคาอยู่ระหว่าง 10-3,000 บาท แต่หากเป็นของชิ้นใหญ่ เช่น เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ราคาอยู่ที่ 5,000-100,000 บาท ส่วนรถจักรยานยนต์ราคาอยู่ที่หลักหมื่นถึงแสนบาท



แม้รายได้ครึ่งแสนต่อเดือน

แต่แนะนักค้าของเก่าไม่หวังกำไร

เมื่อถามถึงรายได้ ซึ่งดูเหมือนการซื้อมาขายไปของคุณสำรี จะไม่แน่นอนในทุกเดือน เพราะขึ้นอยู่กับของเก่าที่พบในแต่ละครั้ง แต่คุณสำรีก็ยืนยันว่า แม้ว่าจะไม่แน่นอนอย่างที่เห็น แต่อย่างน้อยรายได้ที่เข้ากระเป๋าก็สูงถึง 20,000-30,000 บาท ต่อเดือน เป็นอย่างน้อย และมากสุดรับได้ถึง 50,000 บาท ต่อเดือน ทีเดียว

แต่มีข้อแนะนำสำหรับคนที่อยากทำธุรกิจค้าของเก่าให้ประสบความสำเร็จ หรือยึดถือเป็นอาชีพหลัก เฉกเช่น คุณสำรี ในฐานะลุงแดงของเก่าหรือแดงของถูก คุณสำรี บอกว่า ใจรักในของเก่าเท่านั้นที่สำคัญ ส่วนเงินซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญของการทำธุรกิจ แต่จำเป็นต้องมี ตรงนี้คุณสำรีแนะว่า เงินทุนเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอสำหรับผู้ไขว่คว้า ไม่จำเป็นจะต้องมีเงินสูงสำหรับคนเล่นของเก่าเสมอไป เพราะของเก่าซื้อมาขายไปในราคาที่บางครั้งเราอาจนึกไม่ถึง

และที่สำคัญที่สุด ต้องรู้จักคำว่า "ของเก่า" อย่างแท้จริง หมายถึง ดูของเก่าเป็น ไม่ทึกทักเอาเองหรือเชื่อตามคำบอกเล่าของใคร ดังนั้นลักษณะเหมาะของคนที่จะค้าของเก่าได้ ควรมีความรู้เกี่ยวกับของเก่า ไม่มองเฉพาะการค้ากำไรเท่านั้น

แวะเวียนไปดูต้นตำรับของเก่า "ย้อนอดีต 2482 ปู่แดง" หรือหากสอบถามคนในแวดวง ต้องถามถึง "ลุงแดงของเก่า" แหล่งเก็บของที่สามารถเลือกซื้อได้ทั้งปลีกและส่งอยู่ไม่ไกลนัก ย่านตำบลสำโรงใต้ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ แต่คุณสำรี เจ้าของขอให้โทรศัพท์สอบถามและแจ้งล่วงหน้าหากจะเข้าไปซื้อ เพราะร้านหรือบ้านเป็นสถานที่สำหรับเก็บของเท่านั้น ไม่ได้เปิดขายเป็นกิจจะลักษณะเสียทีเดียว



ข้อมูลจำเพาะ

กิจการ จำหน่ายของเก่าทุกชนิด

ชื่อกิจการ ย้อนอดีต 2482 ปู่แดง

ลักษณะกิจการ ครอบครัว

เจ้าของกิจการ คุณสำรี พึ่งย้อย

เงินลงทุน หลักหมื่นถึงแสนบาท ขึ้นกับสินค้าที่ซื้อ

รูปแบบการขาย ปลีกและส่ง

แหล่งซื้อวัตถุดิบ ร้านโชห่วยในตัวอำเภอต่างๆ ของแต่ละจังหวัด

รายจ่ายซื้อวัตถุดิบ ครั้งละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท

รายได้ต่อเดือน 20,000-50,000 บาท

กลุ่มลูกค้า พ่อค้าของเก่า และ นักสะสมของเก่า

จุดเด่นของสินค้า หายาก ไม่มีวางขายทั่วไป

สถานที่ตั้ง บ้านในตำบลสำโรงใต้ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ

โทรศัพท์ (084) 095-3805

ที่มา http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07009151252&srcday=2009-12-15&search=no